Page 66 - วชาวทยาศาสตรทกษะโปรเเกรม_Neat (1)
P. 66
58
แคโทด หลอดรังสีแคโทด ประกอบด้วย เครื่องจ่ายไฟฟ้ากระแสตรงศักย์สูง และ
หลอดแก้วบรรจุแก๊สที่มีความดันตํ่า ปลายด้านหนึ่ง เป็นขั้วแอโนด อีกด้านหนึ่งเป็นขั้ว
แคโทด ตรงกลางของแอโนดเจาะเป็นรู และมีฉากเรืองแสงอยู่ที่ปลาย ด้านหนึ่ง ดังรูปที่
5.3 เมื่อสูบอากาศออกจากหลอดแก้วจนเกือบเป็นสุญญากาศ เขาพบว่า มีจุดสว่าง
เกิดขึ้นบนฉากเรืองแสง ทอมสันจึงตั้งสมมติฐานว่ามีรังสีชนิดหนึ่งจากแคโทดพุ่งเป็น
เส้นตรงผ่านรูของ แอโนดไปกระทบกับฉากเรืองแสง ทําให้เกิดเป็นจุดสว่างปรากฏขึ้นมา
บนฉากเรืองแสง
2. อนุภาคมูลฐานของอะตอม
ต่อมาในปี ค.ศ. 1932 (พ.ศ.2475) เจมส์ แซดวิก นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษได้ทํา
การทดลอง ยิงอนุภาคแอลฟาไปยังธาตุต่าง ๆ และพบอนุภาคที่เป็นกลางทางไฟฟ้าอยู่ใน
นิวเคลียส และเรียกชื่อว่า “นิวตรอน” การค้นพบนิวตรอนทําให้ความรู้เกี่ยวกับ
นิวเคลียสของอะตอมกระจ่างขึ้น ทําให้ทราบว่า อะตอมประกอบด้วยอนุภาค 3 ชนิด คือ
โปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอน และเรียกอนุภาคทั้งสาม ชนิดนี้ว่า “อนุภาคมูลฐาน
ของอะตอม”
ตัวเลขที่แสดงจํานวนโปรตอนนี้เรียกว่า เลขอะตอม (Atomic Number)
เนื่องจากมวลของอะตอม ส่วนใหญ่เป็นมวลของนิวเคลียส ซึ่งมีทั้งโปรตอนและนิวตรอน
รวมกัน และเรียกผลรวมของจํานวนโปรตอน และนิวตรอนว่า เลขมวล (Mass Number)
ดังนั้น เมื่อทราบเลขอะตอม และเลขมวล ก็สามารถหาจํานวนอนุภาคมูลฐานในอะตอม
ได้ดังนี้ เช่น ฟอสฟอรัส (P) มีเลขอะตอมเท่ากับ 15 และมีเลขมวลเท่ากับ 31 จํานวน
อนุภาคมูลฐานของฟอสฟอรัส (P) ประกอบด้วย โปรตอนเท่ากับ 15 อิเล็กตรอนเท่ากับ
15 และนิวตรอนเท่ากับ 31 – 15 = 16