Page 112 - ทักษะการเรียนรู้ ม.ปลาย
P. 112

103


                        รูปสิบสี่ภาค (Stations of the Cross)

                        ไม่ว่ารูปสิบสี่ภาคจะประกอบด้วยพระรูปพร้อม ทั้งไม้กางเขน หรือมีเฉพาะไม้กางเขนเพียงอย่างเดียว
               ก็ให้ประดิษฐานไว้ในโบสถ์  หรือ  ณ  สถานที่เหมาะสมส าหรับติดตั้งรูปสิบสี่ภาค  เพื่อความสะดวกของ

               สัตบุรุษ (หนังสือเสก และอวยพร บทที่ 34 ข้อ 1098)


                        เครื่องเรือนศักดิ์สิทธิ์ (Sacred  Futnishings)

                        การประกอบพิธีกรรมของคริสตชนต้องใช้อุปกรณ์หลายอย่าง ทั้งที่เป็นโครงสร้างถาวรและที่เป็น

               แบบเคลื่อนย้ายได้  มีทั้งเป็นเครื่องเรือนหรือภาชนะ  เราใช้ชื่อรวมเรียกอุปกรณ์เหล่านี้ว่า  “เครื่องเรือน
               ศักดิ์สิทธิ์”  หรือ  “เครื่องเรือนพิธีกรรม”  ซึ่งอุปกรณ์เหล่านั้นมีไว้ใช้สอยในระหว่างการ  ประกอบพิธีการ

               ปฏิรูปพิธีกรรมสังคายนาก็ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ด้วย “พระศาสนจักรเอาใจใส่กวดขันเป็นพิเศษ ให้เครื่องเรือนที่

               ใช้ในศาสนาสวยงามสมที่จะให้คารวกิจมีความสง่างาม พระศาสนจักรจึงยอมให้มีการเปลี่ยนแปลงรูปทรง
               การตกแต่งที่เกิดจากความก้าวหน้าทางวิชาการตามยุคสมัย (S.C.122)

                        คริสตศาสนาในประเทศไทยมีหลายนิกาย แต่ละนิกายจะมีจารีตและการใช้ค าสัญลักษณ์ที่แตกต่างกัน

               นิกายที่มีประชาชนรู้จักและนับถือกันมากมีอยู่  2  นิกาย  คือ นิกายโรมันคอทอลิก  (คริสตัง)  และนิกาย
               โปรเตสแตนต์ (คริสเตียน) แต่ละนิกายจะมีวิธีเรียกที่แตกต่างกัน เช่น นิกาย โรมันคาทอลิก จะเรียกโบสถ์

               ของตนเองว่า โบสถ์พระแม่มารี โบสถ์ในนิกายนี้จะแตกต่างด้านสถาปัตยกรรมยุโรป ประดับประดาด้วยรูป

               ปั้นต่าง  ๆ  แต่นิกายโปรแตสแตนส์และเรียกโบสถ์ของตนเองว่า  คริสตจักร  เช่น  คริสตจักรพระสัญญา

               อาคารของโบสถ์จะเน้นความเรียบง่ายเหมือนอาคารทั่วไป ไม่เน้นรูปเคารพ หรือรูปปั้น อาจจะมีไม้กางเขน
               เล็กพอเป็นเครื่องหมายแสดงถึงอาคารทางด้าน ศาสนกิจเท่านั้น (อ้างจาก  http: www.panyathai.or.th)



               มัสยิด

                        มัสยิด หรือสุเหร่า หรือสะกดว่า มัสญฺด เป็นศาสนสถานของชาวมุสลิม ชาวมุสลิมในแต่ละชุมชน
               จะสร้างมัสยิดขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา อันได้แก่ การนมาซ และการวิงวอน การปลีก

               ตนเพื่อบ าเพ็ญตบะ หาความสันโดษ (อิอฺติกาฟ  และคอลวะหฺ) นอกจากนี้มัสยิดยังเป็นโรงเรียนสอนอัลกุ

               รอานและศาสนาสถานที่ชุมนุมพบปะ ประชุม เฉลิมฉลอง ท าบุญเลี้ยง สถานที่ท าพิธีสมรส และสถานที่พัก
               พิงของผู้สัญจรผู้ไร้ที่พ านัก โดยที่จะต้องรักษามารยาทของมัสยิด เช่น การไม่คละเคล้าระหว่างเพศชายและ

               หญิง การกระท าที่ขัดกับบทบัญญัติห้ามของอิสลาม (ฮะรอม) ทั้งมวล

                        ค าว่า มัสยิด หรือมัสญิด  เป็นค าที่ยืมมาจากภาษาอาหรับ แปลว่า สถานที่กราบ
                        ค าว่า สุเหร่า เป็นค าที่ยืมมาจากภาษามลายู Surau


                        ศาสนสถานของศาสนาอิสลามที่ส าคัญที่สุด คือ อัลมัสญิด  อัลฮะรอม (มัสญิดต้องห้าม) ในนคร

               มักกะหฺ อันเป็นที่ตั้งของกะอุบะหฺ มะกอมอิบรอฮีม (รอยเท้าของศาสดาอิบรอฮีม) ข้าง ๆ นั้นเป็นเนินเขา  อัศ

               ศอฟา และอัลมัรวะหฺ  อัลมัสญิด  อัลฮะรอม เป็นสถานที่นมาซประจ าวัน และสถานที่บ าเพ็ญฮัจน์ เพราะยาม
   107   108   109   110   111   112   113   114   115   116   117