Page 13 - ภาษาไทย ม.ต้น
P. 13

ห น า  | 13



                         ใจความสําคัญ  เด็กและผูใหญไปเที่ยวบางแสน   รับประทานอาหารกลางวัน   เด็กเลนน้ํา
                  ผูใหญคอยเฝาสนุกสนานมาก







                         3.  จับใจความสําคัญจากบทความ


                         บทความ    คือ    ขอเขียนซึ่งอาจจะเปนรายงาน  หรือการแสดงความคิดเห็น  มักตีพิมพใน

                  หนังสือพิมพ  วารสาร สารานุกรม เปนตน
                         ตัวอยาง  ใครที่เคยกินไขเยี่ยวมาคงประหลาดใจวาทําไมเรียกวาไขเยี่ยวมา   ทั้งๆ   ที่ตามปกติ

                  แลวใชขี้เถาจากถานไมผสมวัตถุดิบอื่นๆ  พอกไขจนเกิดปฏิกิริยาระหวางสารที่พอกกับเนื้อไขจนเกิด

                  วุนสีดําๆ เปนไขเยี่ยวมาขึ้นมา โดยไมได “เยี่ยวมา” สักกะหยดมากอนปฏิสนธิจนเปนไขกินอรอยแตก็
                  นั่นแหละ  นาจะสันนิษฐานกันไดวา  ตนตํารับเดิมของการทําไขวุนดําเชนนี้  มาจากการเอาไขไปแช

                  เยี่ยวมาจริงๆ และเจาฉี่มานี่เองที่ทําปฏิกิริยากับไขจนเปนวุนขึ้นมา

                         ทวาในยุคหลังๆ  ชะรอยจะหาฉี่มาลําบากหรือไมสะดวก  ก็เลยหาสูตรทํา   ทําไขปสสาวะมา

                  ใหมใหสะดวกและงายดายรวมทั้งประหยัดเพราะไมตองเลี้ยงมาเอาฉี่เหมือนเดิมก็เปนได
                         สวนรสชาติจะเหมือนตํารับเดิมหรือเปลี่ยนแปลงประการใด  ก็ยังไมมีใครพิสูจนหรือพยายาม

                  ทําออกมาเทียบเคียงกัน
                                                            ตัดตอนจากหนังสือสยามรัฐฉบับวันที่ 24 กุมภาพันธ 2530



                         ใจความสําคัญ ไขเยี่ยวมาไมไดใชเยี่ยวมาในการทํา


                         4.  จับใจความสําคัญจากขาว

                         ขาว คือ คําบอกเลาเรื่องราวซึ่งโดยปกติมักเปนเรื่องเกิดใหมหรือเปนที่นาสนใจ

                         ตัวอยาง ที่ศาลจังหวัดอุบลราชธานี พนักงานอัยการจังหวัดเปนโจทกฟองนายวัน  สันสูงโนน

                  อายุ 44 ป เปนจําเลย ฐานเมื่อวันที่ 30 ก.ค.30 ในเวลากลางวัน จําเลยไดบังอาจตัดฟนตนไมประดู 1 ตน

                  ในเขตปาสงวนแหงชาติ                                    และบังอาจแปรรูปไมประดูดังกลาว
                  จํานวน  8  แผน  ประมาณ  0.48  ลูกบาศกเมตร  และมีไมดังกลาวไวครอบครอง  เหตุเกิดที่ตําบลนาจะ

                  หลวย อําเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี

                         ศาลจังหวัดอุบลราชธานี มีคําพิพากษาวา จําเลยมีความผิด พ.ร.บ.ปาสงวนแหงชาติ พ.ร.บ.ปา
                  ไม  และประมวลกฎหมายอาญา  รวมลงโทษ  จําคุก  18  เดือน  จําเลยใหการสารภาพขณะจับกุมเปน
   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18