Page 7 - PiraBook
P. 7
โรคซึมเศร้าอยู่เป็นพื้นฐานในจิตใจมาก่อนแล้ว เนื้อหาของบทกวีในช่วงเวลา
ดังกล่าวจึงเน้นในความคิดแบบ Positive Thinking หรือการคิดบวก นับว่าเป็น
ครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ผู้เขียนเริ่มฝึกให้ตัวเองคิดบวก หลังจากถูกความคิดใน
แง่ร้ายเล่นงานมาตลอด
ความน่าสนใจอย่างหนึ่ง (หรืออาจเป็นอย่างเดียวในหนังสือเล่มนี้)
อาจคือผู้เขียนเป็นผู้ป่วยแผนกจิตเวช ที่พยายามแสดงความคิด ความรู้สึกของ
ตนเองออกมาเป็นบทกวีสั้นๆ ในช่วงเวลานั้นๆ ทั้งนี้ บทกวีในล�าดับท้ายๆ จึง
เป็นบทกวีที่ถูกถ่ายทอดด้วยความคิดที่เป็นอิสระที่สุด นั่นเพราะผู้ป่วยได้รักษา
อาการป่วยทางจิตจนใกล้จะหายเป็นปกติแล้ว
ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ผู้เขียนร�่าเรียนในวิชาหนังสือ ครูผู้สอนเน้นย�้า
ค�าถามหนึ่งมาโดยตลอด คือค�าถามที่ว่า “คนอ่านจะได้อะไร” แน่นอนว่าค�าถาม
นี้คือแก่นสารหรือหัวใจส�าคัญของการเรียน อันน�าไปสู่ค�าในอุดมคติว่า
“หนังสือดี” ที่นิสิตวิชาบรรณาธิการศึกษาทุกคนควรเข้าใจและน�ามาเป็นธงชัย
ปกไว้เพื่อเป็นหมุดหมายของการท�างานหนังสือ
แต่ส�าหรับรวมกวีนิพนธ์ “ฉันกับบทกวีเป็นเพื่อนกัน” เล่มนี้ ผู้เขียนขอ
สารภาพอย่างตรงไปตรงมาว่า ผู้เขียนไม่รู้จริงๆ ว่าคนอ่านจะได้อะไร ผู้เขียนคิด
ว่าคนอ่านน่าจะเลือกเองว่าจะเอาอะไรไป จะเก็บอะไรได้จากหนังสือเล่มนี้ก็สุด
แท้แต่คนอ่านเท่านั้น
อาจเป็นวรรณศิลป์ดาษดื่น หรือภาษาธรรมดาสามัญ
อาจเป็นความงามของหน้าปก หรือการจัดหน้า
แบบหลงรักในความน้อย
อาจเป็นอภิปรัชญาที่ยิ่งใหญ่ หรือความคิดเล็กๆ ในหนึ่งวรรค
อาจเป็นก�าลังใจให้แก่กัน หรืออาจเป็นความหวังลมๆ แล้งๆ
ผมไม่รู้ ผู้เขียนไม่รู้จริงๆ
ท�าได้เพียงแต่หวังในใจ “ขอให้มีความสุขกับการอ่าน”
พีร
5
4 พีร 5