Page 4 - com
P. 4

1.3 ด้านการเมืองการปกครอง


                         ชาวสุเมเรียนรวมตัวกันเป็นแว่นแคว้นแบบนครรัฐ มีเจ้าผู้ครองนครท าหน้าที่เป็นผู้ปกครองและผู้น า

               ทางศาสนา มีฐานะเสมือนเทพเจ้าประจ านคร ปกครองแบบนครรัฐอิสระไม่ขึ้นต่อกัน ต่อมาเริ่มมีการแย่งชิง


               ดินแดนและแหล่งน ้าระหว่างรัฐ จนในที่สุดถูกโจมตีจากพวกคาลเดียน ที่มีอ านาจจนสามารถตั้งอาณาจักรที่

               มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงบาบิโลน ภายหลังจากนั้นก็มีพวกอื่นเข้ามาโจมตีอาณาจักรนี้ จนกระทั่งผู้น าเผ่าอมอไรต์

               (เป็นสาขาหนึ่งของพวกเซมิติก)  เข้ายึดอาณาจักรบาบิโลนพร้อมทั้งสถาปนาผู้น าขึ้นเป็นกษัตริย์


               ชาวอมอไรต์มีกษัตริย์ชื่อ พระเจ้าฮัมมูราบี เป็นผู้มีชื่อเสียง เนื่องจากทรงขยายอ านาจและท าการปกครอง

               อย่างมีระบบ เห็นได้จากการที่ทรงโปรดให้ประมวลกฎหมายของนครรัฐต่างๆ เป็นกฎหมายชื่อ “ประมวล

               กฎหมายฮัมมูราบี” ซึ่งถือเป็นประมวลกฎหมายที่จารึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรเป็นครั้งแรก บันทึกไว้ด้วย


               อักษรรูปลิ่ม ลักษณะกฎหมายมีความเข้มงวดกว่ากฎหมายเดิมของชาวสุเมเรียน ซึ่งลงโทษโดยเสียเงิน

               ค่าปรับ แต่ประมวลกฎหมายฮัมมูราบีเป็นการลงโทษโดยใช้หลัก “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน”


               พวกอัสซีเรียน (Assyrian) (เป็นสาขาหนึ่งของพวกสุเมเรียน) เข้าปกครองอาณาจักรบาบิโลน จึงได้สืบทอด

               ความเจริญและปรับปรุงการปกครองโดยแบ่งอาณาจักรออกเป็นมณฑลต่างๆ มีข้าหลวงปกครองโดยขึ้นตรง

               ต่อกษัตริย์



               พวกฮิบรู (Hebrew) (เป็นสาขาหนึ่งของพวกเซเมติก) เดิมเป็นเผ่าเลี้ยงสัตว์ร่อนเร่ ต่อมาพวกนี้เข้ามาตั้งถิ่น

               ฐานในนครรัฐสุเมเรียน แต่ยังไม่สามารถตั้งอาณาจักรเป็นของตนเองจนกระทั่งพระเจ้าเดวิด (ครองราชย์

               ประมาณ 470 – 430 ปี ก่อนพุทธศักราช) ได้ตั้งอาณาจักรอัคคัท (Akkad) ของฮิบรูได้ส าเร็จ อาณาจักรฮิบรูมี

               ความเจริญรุ่งเรืองในสมัยพระเจ้าโซโลมอน (Solomon) (ครองราชย์ประมาณ 430 – 390 ปีก่อนพุทธศักราช)

               แล้วจึงสลายไปในเวลาต่อมา


                         พวกเปอร์เซียน (Persian) (เป็นสาขาหนึ่งของพวกอินโด-ยูโรเปียน) ที่อพยพเคลื่อนย้ายจากดินแดน

               เอเชียกลางเพื่อแสวงหาที่ดินอันอุดมสมบูรณ์ จนในที่สุดจึงตั้งถิ่นฐานบริเวณดินแดนดั้งแต่ทะเลสาบแค

               สเปียนจนถึงอ่าวเปอร์เซีย กษัตริย์ที่มีชื่อเสียง ได้แก่ พระเจ้าไซรัสมหาราช (Cyrus the Great)



                         กษัตริย์เปอร์เซียองค์ต่อมาคือ พระเจ้าดาริอุสมหาราช (Darius the Great) ทรงขยายอ านาจออกไป

               ปกครองดินแดนรูปพระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์ ภายหลังรัชกาลของพระองค์เมื่อ พ.ศ. 143 พระเจ้าอเล็ก

               ซานเดอร์มหาราชแห่งกรีก เข้าโจมตีเมืองเปอร์ซีโปลิส ท าให้อิทธิพลกรีกแผ่เข้ามาในอาณาจักรเปอร์เซี
   1   2   3   4   5   6   7   8   9