Page 5 - com
P. 5
1.4 ด้านเศรษฐกิจ
บรรดาชนเผ่าที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในดินแดนเมโสโปเตเมีย ชาวสุเมเรียนนับว่ามีความเชี่ยวชาญด้าน
เกษตรกรรม ได้แก่ การปลูกข้าวสาลี และเลี้ยงสัตว์เพื่อใช้แรงงานและท าผลิตภัณฑ์จากสัตว์เพื่อบริโภค
ได้แก่ เนื้อ นม เนย และใช้ขนสัตว์ที่ย้อมสีแล้วทอเป็นผ้าส าหรับนุ่งห่มและท าเป็นพรมใช้ในชีวิตประจ าวัน
การที่ชาวสุเมเรียนมีความรู้ในการค านวณและความรู้ทางดาราศาสตร์สามารถท าปฏิทินแบบจันทรคติ
อาศัยคาบเวลาระหว่างดวงจันทร์วันเพ็ญ โดยก าหนดให้เดือนหนึ่งเฉลี่ยนาน 29กับ ½ วัน และแบ่งปีออกเป็น
12 เดือน ท าให้รู้เวลาที่เหมาะสมในการเพาะปลูกและยังท าให้สามารถก าหนดวันที่ควรจะออกเดินทางไป
ติดต่อค้าขาย เช่น การใช้ความรู้เกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของดวงดาวเป็นเครื่องน าทางให้เดินไปถึงจุดหมาย
นอกจากนี้ความรู้ด้านการบวก ลบ คูณ และระบบการชั่ง ตวง วัด ท าให้ชาวสุเมเรียนมีความสามารถในด้าน
การค้า
เมื่อประมาณ 1,750 ปีก่อนพุทธศักราช อาณาจักรบาบิโลนมีความมั่นคงทางการเมืองการปกครองและ
การค้า พ่อค้าเมโสโปเตเมียเดินทางค้าขายกับเมืองต่างๆในดินแดนเอเชียตะวันออกกลางไปจนถึงดินแดนที่
ไกลออกไป ได้แก่ อินเดียและจีน โดยใช้โลหะ เงิน และทองค า ซื้อ-ขายสินค้าจ าพวกธัญพืช ผ้าและสินค้ามี
ค่าอื่นๆ ท าให้อาณาจักรบาบิโลนกลายเป็นศูนย์กลางการค้าที่ส าคัญของโลกในยุคนั้น
1.5 ด้านสังคม
หลักฐานการจัดระเบียบสังคมในดินแดนเมโสโปเตเมีย ได้แก่ ประมวลกฎหมายฮัมมูราบีที่สะท้อนให้
เห็นว่าโครงสร้างสังคมในดินแดนนี้ประกอบด้วยชนชั้นผู้ปกครอง ได้แก่ กษัตริย์ พระราชวงศ์และขุนนาง
กลุ่มขุนนางมีหน้าที่รับผิดชอบทั้งด้านการปกครองและศาสนา ส่วนคนที่ถูกปกครอง ได้แก่ ช่างฝีมือ พ่อค้า
ซึ่งเป็นชนชั้นกลาง ส่วนกรรมกรและทาสถือว่าเป็นชนชั้นต ่าในสังคม กฎหมายฮัมมูราบีนับว่าทันสมัยในยุค
นั้น คือ การรับรองสิทธิในทรัพย์สินของคนในสังคม และคนในสังคมมีความรับผิดชอบต่างกัน
1.6 ด้านศาสนา
ในด้านความเชื่อ คนในดินแดนเมโสโปเตเมียมีความเชื่อถือโชคลาง เทพเจ้าที่สถิตในธรรมชาติซึ่งมี
อยู่หลายองค์ ยกเว้นพวกฮิบรูซึ่งเป็นชนเผ่าที่นับถือพระ เจ้าองค์เดียว มีพระนามว่า “พระยะโฮวาห์”