Page 196 - พระราชบัญญัติที่มีโทษทางอาญา
P. 196

๑๘๗




                             (๔)  ยึดเอกสารสําคัญประจําตัวของบุคคลนั้นไวหรือนําภาระหนี้ของบุคคลนั้นหรือ
                 ของผูอื่นมาเปนสิ่งผูกมัดโดยมิชอบ

                             (๕)  ทําใหบุคคลนั้นอยูในภาวะที่ไมสามารถขัดขืนได
                              ดังนั้น  จึงพอสรุปไดวา “การคามนุษย”  เปนการกระทําตอบุคคลอื่นโดยเจตนา

                 เพื่อแสวงหาประโยชนโดยมิชอบสําหรับตนเองหรือผูอื่น ไมวาบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไมก็ตาม
                 ในลักษณะดังตอไปนี้

                             (๑)  เปนธุระจัดหา ซื้อขาย จําหนาย พามาจาก หรือสงไปยังที่ใด หนวงเหนี่ยว กักขัง
                 จัดใหอยูอาศัยหรือรับไวซึ่งบุคคลใดโดยขมขูใชกําลังบังคับ ลักพาตัว ฉอฉล หลอกลวง ใชอํานาจ

                 โดยมิชอบ ใชอํานาจครอบงําบุคคลดวยเหตุที่อยูในภาวะออนดอยทางรางกาย จิตใจ การศึกษา
                 หรือทางอื่นใดโดยมิชอบ  ขูเข็ญวาจะใชกระบวนการทางกฎหมายโดยมิชอบ  หรือโดยใหเงิน

                 หรือผลประโยชนอยางอื่นแกผูปกครองหรือผูดูแลบุคคลนั้น  เพื่อใหผูปกครองหรือผูดูแล
                 ใหความยินยอมแกผูกระทําความผิดในการแสวงหาประโยชนจากบุคคลที่ตนดูแล หรือ
                             (๒)  เปนธุระจัดหา ซื้อขาย จําหนาย พามาจาก หรือสงไปยังที่ใด หนวงเหนี่ยว กักขัง

                 จัดใหอยูอาศัยหรือรับไวซึ่งเด็กถาการกระทํานั้นไดกระทําโดยมีความมุงหมาย เพื่อเปนการแสวงหา
                 ประโยชนโดยมิชอบ ผูนั้นกระทําความผิดฐานคามนุษย

                             ในกรณีที่เปนการกระทําตอเด็ก แมไมไดมีการใชวิธีการตามมาตรา ๖(๑) ก็เปนการคา
                 มนุษยตามมาตรา ๖(๒)

                             ¡Å‹ÒÇâ´ÂÊÃØ»  ในการที่จะพิจารณาวาเปนคดีเกี่ยวกับเรื่องการคามนุษยหรือไมนั้น
                 จะตองพิจารณาวาผูกระทําผิดมีพฤติกรรมประการใด ดังตอไปนี้

                             ๑.  ผูนั้นมีพฤติกรรมในการเปนธุระจัดหา ซื้อ ขาย จําหนาย พามา  หรือสงไปยังที่ใด
                 รับตัวไว หนวงเหนี่ยว กักขัง ซอนเรนบุคคลโดยเฉพาะหญิงหรือเด็กหรือไม

                             ๒.  วิธีการที่ผูนั้นแสดงออกมา เปนวิธีการขมขู คุกคาม ใชกําลัง การลักพาตัว การบังคับ
                 การหลอกลวง ใชอํานาจที่เหนือกวาบังคับหรือใหคาตอบแทน ทั้งที่เปนทรัพยสินหรือประโยชนอยางอื่น

                 ตอผูถูกกระทําหรือไม
                             ๓.  เจตนาที่ผูกระทําความผิดนั้นนอกจากมีเจตนาธรรมดาแลว ยังจะตองมีเจตนา

                 พิเศษหรือมูลเหตุชักจูงใจเพื่อนําผูถูกกระทําไปแสวงหาประโยชนโดยมิชอบหรือไม ซึ่งการแสวงหา
                 ประโยชนโดยมิชอบนี้ หมายถึง การแสวงหาประโยชนทางเพศ การบังคับใชแรงงาน หรือบริการ

                 การเอาตัวเปนทาส การจองจํา ตลอดจนการตัดอวัยวะออกจากรางกายเพื่อการคาดวย
                             การกระทําความผิดตาม พ.ร.บ.ปองกันและปราบปรามการคามนุษย พ.ศ.๒๕๕๑
                 มักเปนความผิดที่มีฐานความผิดอื่นๆ รวมอยูดวย หลักการใช พ.ร.บ.คามนุษยจะใชประมวล

                 กฎหมายอาญา ในเรื่องการกระทําความผิดหลายกรรมหลายวาระ หรือการกระทํากรรมเดียวผิด

                 กฎหมายหลายบทเปนหลักในการพิจารณา
   191   192   193   194   195   196   197   198   199   200   201