Page 72 - กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับงานจราจร
P. 72

๖๕




                            การเคลื่อนยายรถหรือใชเครื่องมือบังคับใหรถที่หยุดหรือจอดอยูไมใหเคลื่อนยายไดตาม
                 วรรคสอง เจาพนักงานจราจร หรือพนักงานเจาหนาที่ หรือผูที่ไดรับมอบหมายจากเจาพนักงานจราจร

                 หรือพนักงานเจาหนาที่ ไมตองรับผิดสําหรับความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติตามมาตรานี้
                 เวนแตความเสียหายนั้นจะเกิดขึ้นจากการกระทําโดยจงใจหรือประมาทเลินเลอ

                            เจาของรถหรือผูขับขี่ตองชําระคาใชจายในการที่รถถูกเคลื่อนยายหรือการใชเครื่องมือ
                 บังคับไมใหเคลื่อนยาย ตลอดจนคาดูแลรักษารถระหวางที่อยูในความครอบครองของเจาพนักงานจราจร

                 หรือพนักงานเจาหนาที่ หรือผูที่ไดรับมอบหมายจากเจาพนักงานจราจรหรือพนักงานเจาหนาที่ ทั้งนี้
                 ตามอัตราที่กําหนดในกฎกระทรวง”

                            ขอ ๒  ใหยกเลิกความในวรรคสองของมาตรา ๑๒๓ แหงพระราชบัญญัติจราจร
                 ทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๓๘

                 และใหใชความตอไปนี้แทน
                            “ผูขับขี่รถยนตตองรัดรางกายดวยเข็มขัดนิรภัยไวกับที่นั่งในขณะขับขี่รถยนต และตองจัด

                 ใหคนโดยสารรถยนตรัดรางกายไวกับที่นั่งดวยเข็มขัดนิรภัยขณะโดยสารรถยนต และคนโดยสารรถยนต

                 ดังกลาวตองรัดรางกายดวยเข็มขัดนิรภัยไวกับที่นั่งในขณะโดยสารรถยนตดวย”
                            ขอ ๓  ใหยกเลิกความในมาตรา  ๑๔๑  ทวิ  แหงพระราชบัญญัติจราจรทางบก
                 พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๓๕ และใหใช

                 ความตอไปนี้แทน

                            “มาตรา ๑๔๑/๑  ในกรณีที่ผูขับขี่หรือเจาของรถซึ่งไดรับใบสั่งไมปฏิบัติตามมาตรา ๑๔๑
                 ใหพนักงานเจาหนาที่และนายทะเบียนตามกฎหมายวาดวยรถยนตหรือกฎหมายวาดวยการขนสง

                 ทางบกมีหนาที่และอํานาจ ดังตอไปนี้
                            (๑)  ใหพนักงานเจาหนาที่ตําแหนงตั้งแตสารวัตรขึ้นไปมีหนังสือแจงการไมปฏิบัติตามใบสั่ง

                 และจํานวนคาปรับที่คางชําระใหผูขับขี่หรือเจาของรถทราบภายในสิบหาวันนับแตวันที่ครบกําหนด
                 ชําระคาปรับตามที่ระบุในใบสั่ง และใหผูขับขี่หรือเจาของรถทําการชําระคาปรับที่คางชําระดวยวิธีการ

                 อยางใดอยางหนึ่ง ตามมาตรา ๑๔๑ ภายในสิบหาวันนับแตวันที่ไดรับแจง
                                 การแจงตามวรรคหนึ่ง ใหทําเปนหนังสือสงทางไปรษณียลงทะเบียนตอบรับใหผูขับขี่

                 หรือเจาของรถ แลวแตกรณี ณ ภูมิลําเนาของผูนั้น ทั้งนี้ ตามแบบที่ผูบัญชาการตํารวจแหงชาติกําหนด
                 และใหถือวาผูขับขี่หรือเจาของรถไดรับแจงเมื่อพนกําหนดสิบหาวันนับแตวันที่สง

                            (๒)  ในกรณีที่ผูขับขี่หรือเจาของรถคันใดไมชําระคาปรับตาม (๑) ใหดําเนินการ ดังตอไปนี้
                                 (ก)  ใหพนักงานเจาหนาที่แจงจํานวนคาปรับที่คางชําระพรอมหลักฐานตาม (๑) ไปยัง

                 นายทะเบียน และใหนายทะเบียนตรวจสอบขอมูลและแจงใหผูมาติดตอขอชําระภาษีประจําปสําหรับ
                 รถคันนั้นทราบ เพื่อไปชําระคาปรับที่คางชําระภายในสามสิบวันนับแตวันที่ไดรับแจง ถาผูมาติดตอ

                 ขอชําระภาษีประจําปเปนเพียงตัวแทนเจาของรถ ใหผูมาติดตอแจงใหเจาของรถทราบเพื่อไปชําระ
   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77