Page 59 - Electric
P. 59

ก๊าซยาดานา เยตากุน และ                                     ส�าหรับการคำดกำรณ์สถำนกำรณ์พลังงำนในปี 2561
                ซอติก้าของเมียนมา หยุด                               สนพ. คาดว่า กำรใช้พลังงำนขั้นต้นของประเทศไทยเพิ่มขึ้นจาก
                จ่ายก๊าซในเดือนกุมภาพันธ์                            ปี 2560 ประมาณ 2.1% หรือใช้อยู่ที่ประมาณ 2.81 ล้านบาร์เรล
                และมีนาคม ประกอบกับ                                  เทียบเท่าน�้ามันดิบ/วัน โดยพิจารณาจากปัจจัย ราคาน�้ามันดิบดูไบ
                แหล่ง JDA-A18 ในอ่าวไทย                              เฉลี่ยที่ 50-60 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยนมีแนวโน้ม
                หยุดซ่อมบ�ารุงเดือน                                  อ่อนค่าลงอยู่ที่ 34-35 บาท/เหรียญสหรัฐฯ และการคาดการณ์
                มิถุนายน-กรกฎาคม  และ                                GDP ของสภาพัฒน์จะขยายตัวที่ 3.6-4.6% ซึ่งเป็นการขยายตัว
                ตุลาคม ส่งผลให้ก๊าซลดลงจาก                           จากภาคเศรษฐกิจทั้งการส่งออก การลงทุนของภาครัฐและเอกชน
                ระบบ การเพิ่มขึ้นของการใช้   ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร      ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประกอบกับการปรับตัวดีขึ้นของการจ้างงาน
                พลังงานนี้สอดคล้องกับการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ    และฐานรายได้ประชาชน โดยมีมาตรการดูแลเกษตรกรและ
                (GDP) ของส�านักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม   ผู้มีรายได้น้อยเป็นปัจจัยสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
                แห่งชาติ (สภาพัฒน์) ที่ 3.9% ซึ่งเติบโตทั้งจากการส่งออก การ   การใช้พลังงานขั้นต้นปี 2561 ที่เพิ่มขึ้นนี้จะเพิ่มขึ้นเกือบทุก
                บริโภคภาคเอกชน รวมทั้งการใช้จ่ายภาครัฐบาลฯ และการลงทุน   ประเภท ยกเว้นก๊าซธรรมชาติที่คาดว่าจะมีการใช้ลดลง โดยการใช้
                โดยรวม ด้านราคาน�้ามันดิบดูไบเฉลี่ยอยู่ที่ 53 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล    พลังงานทดแทนจะเพิ่มขึ้นมากที่สุด 7.1% เมื่อเทียบกับปี 2560
                โดยปรับตัวสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 ตามเศรษฐกิจโลก  เป็นผลมาจากนโยบายส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนของภาครัฐ
                ที่ฟื้นตัวดีขึ้น และข้อตกลงลดก�าลังการผลิตของกลุ่มผู้ผลิตน�้ามัน  การใช้น�้ามันเพิ่ม 2.2% จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และราคา
                      สถานการณ์การใช้พลังงานขั้นสุดท้ายแต่ละประเภทของ  น�้ามันที่คาดว่ายังคงอยู่ในระดับต�่า ลิกไนต์และถ่านหินน�าเข้าเพิ่ม
                ปี 2560 พบว่า                                        1.2% โดยเฉพาะการใช้ถ่านหินในภาคอุตสาหกรรม การใช้ไฟฟ้า
                      กำรใช้น�้ำมันส�ำเร็จรูปเพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว   น�าเข้าเพิ่ม 0.4% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง เนื่องจาก
                โดยเพิ่มเกือบทุกประเภท ยกเว้นการใช้น�้ามันเตา และ LPG ที่ลดลง    ฐานการน�าเข้าจาก สปป.ลาว ที่สูงในปี 2560 ส่วนก๊าซธรรมชาติ
                โดยกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้น 3.8% (การใช้เฉลี่ย 30.2   ลดลง 1.2% จากการใช้เพื่อผลิตไฟฟ้า และการใช้ในภาคขนส่ง (NGV)
                ล้านลิตร/วัน) เป็นการเพิ่มขึ้นจากปัจจัยปริมาณรถยนต์นั่งและ   ที่ลดลง
                รถจักรยานยนต์ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาขายปลีกน�้ามันใน    การใช้พลังงานขั้นสุดท้ายในกลุ่มน�้ำมันส�ำเร็จรูปปี 2561
                ประเทศอยู่ระดับไม่สูง และการลอยตัว LPG ในวันที่ 1 สิงหาคม   คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกือบทุกประเภท ยกเว้นน�้ามันเตาและ LPG
                2560 ส่งผลให้ผู้ใช้รถ LPG บางส่วนเปลี่ยนกลับมาใช้น�้ามันแทน  โดยการใช้เบนซินและแก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบปี 2560
                มากขึ้น ดีเซลการใช้เพิ่มขึ้น 2.6% (การใช้เฉลี่ย 63.7ล้านลิตร/วัน)   (การใช้ 31.2 ล้านลิตร/วัน) ซึ่งเป็นผลมาจากราคาขายปลีกใน
                น�้ามันเครื่องบินเพิ่ม 4.4% ตามการขยายตัวของการท่องเที่ยว ส่วน    ประเทศที่คาดว่ายังอยู่ระดับต�่า และผู้ใช้รถ LPG หันมาใช้น�้ามัน
                LPG (ไม่รวม Feedstock ในปิโตรเคมี) ลดลง 1.8% จากการใช้ใน   แทนอย่างต่อเนื่อง ดีเซลเพิ่ม 2.7% (การใช้ 65.5 ล้านลิตร/วัน)
                ภาคขนส่งที่ลดลงต่อเนื่อง                             น�้ามันเครื่องบินเพิ่ม 4.3% จากนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวของ
                      กำรใช้ก๊ำซธรรมชำติ ปี 2560 มีปริมาณการใช้อยู่ที่ระดับ   ภาครัฐ น�้ามันเตาลดลง 6.7% (การใช้ 5.4 ล้านลิตร/วัน) และ LPG
                4,721 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ลดลง 0.1% จากปีก่อน ทั้งจากการใช้   ที่ไม่รวม Feedstock ของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีลดลง 1.2% (การใช้
                เพื่อผลิตไฟฟ้า ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนหลักประมาณ 58% ของการใช้   21.3 ล้านลิตร/วัน)
                ก๊าซธรรมชาติทั้งหมด คาดว่าลดลง 1.7% เช่นเดียวกับการใช้ NGV    ภำพรวมกำรใช้ LPG โพรเพน และบิวเทน ปี 2561 คาดว่า
                ลดลง 12.6% เนื่องจากราคาขายปลีกน�้ามันปรับตัวลดลง และจ�านวน   จะมีการใช้เพิ่มขึ้น 5.0% โดยการใช้ในภาคอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้น
                สถานีบริการ NGV ที่ยังมีไม่มากนัก ท�าให้ผู้ใช้รถยนต์บางส่วน   5.7% ภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น 2.5% เป็นไปตามแนวโน้มการขยายตัว
                หันไปใช้น�้ามันแทน ขณะที่การใช้ก๊าซธรรมชาติภาคอุตสาหกรรม   ของเศรษฐกิจ และการใช้ในรถยนต์คาดว่าจะลดลง 10.9% ซึ่งลดลง
                เพิ่มขึ้น 4.2%                                       อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2558 จากการที่ผู้ใช้บางส่วนเปลี่ยนไปใช้
                      กำรใช้ไฟฟ้ำในปี 2560 อยู่ที่ 185,370 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น    น�้ามันซึ่งมีราคาถูกแทน ส่วนการใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
                1.4% จากปีก่อน เป็นผลมาจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของ   จะเพิ่มขึ้น 17.8% ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมต่อเนื่องจาก
                ประเทศ  โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจ  ส่วนความต้องการ   เศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวดีขึ้น
                พลังไฟฟ้าสูงสุด (Peak) ในระบบ 3 การไฟฟ้า หรือ System Peak   กำรใช้ไฟฟ้ำ ปี 2561 คาดว่าจะมีการใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 192,923
                (รวม Peak ของ VSPP) ปี 2560 อยู่ที่ 30,303 เมกะวัตต์ ลดลง   ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น 4.1% ตามภาวะเศรษฐกิจที่จะปรับตัวดีขึ้น
                2.2% เมื่อเทียบกับปี 2559                            ทั้งในส่วนของเศรษฐกิจภายในประเทศและเศรษฐกิจ
                                                                     โลก


                                                                                           January-February 2018
                                                                                           January-February 2018
   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64