Page 2 - การเกิดปิโตรเลียม
P. 2

2



                        ปิโตรเลียม ประกอบไปด้วยสารประเภทไฮโดรเจนและคาร์บอน เป็นองค์ประกอบหลัก มีทั้งส่วน ที่เป็น
                 ของเหลวและก๊าซ ที่เรียกรวมกัน ว่าเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามแหล่งกําเนิด จะไม่ว่าจะขุดพบ
                 ปิโตรเลียมที่ไหนสิ่งที่เหมือนกัน คือ ส่วนที่เป็นก๊าซ จะลอยอยู่ด้านบนสุดตามด้วยน้ํามัน และ ส่วนที่เป็นน้ําจะอยู่

                 ต่ํากว่าน้ํามันเสมอ ปิโตรเลียมเกิดขึ้นได้ต้องมีสภาพที่เหมาะสมหากไม่เช่นนั้นก็จะเล็ดลอดออกสู่พื้นผิวโลกแล้ว
                 ระเหยหายไปจนหมดปิโตรเลียมจัดได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ทางธรรมชาติ ที่ได้จากการสลายตัวของสิ่งมีชีวิตทั้งพืช และ

                 สัตว์ รวมกันปฏิกิริยาเคมีเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ในน้ ามันดิบ ที่เคลื่อนตัวเข้ามาก่อนถึงโครงสร้าง กักเก็บเป็นเวลายาวนาน
                 หลายล้านปี ซึ่งอาจะเป็นเหตุผลที่อธิบายได้ว่าท าไมน้ ามันจากบ่อต่าง ๆ จึงไม่เหมือนกัน ตะกอนที่ปนอินทรีย์วัตถุ
                 หรือที่จะให้น้ ามันสะสมตัวอยู่ในปัจจุบันนี้ คือ ตะกอนที่มีแร่ดินเหนียวอยู่ด้วยมาก ขณะที่กักเก็บน้ ามันจริง ๆ คือ
                 หินทราย ซึงประกอบด้วยแร่เขี้ยวหนุมานเป็นส่วนใหญ่ หรือไม่ก็เป็นหินปูน ที่มีแร่แคลไซต์มาก หรือพวกหินที่มีรอย

                 แตกมากมาย จึงดูเหมือนว่าน้ ามันเกิดอยู่ที่หนึ่ง และต่อมาจึงเปลี่ยนเคลื่อนย้ายไปสะสมตัวอยู่อีกที่
                        ซึ่งความจริงการเคลื่อนย้ายตัวของน้ ามันก็มีหลักการคล้าย ๆ กับการเคลื่อนย้ายของน้ าใต้ดิน หินทรายเป็น
                 หินที่มีความสามารถยอมให้ของเหลวไหลผ่านสูงกว่าหินดินดานมาก จึงยอมให้น้ ามันผ่านเข้ามาได้และที่ส าคัญ

                 คือ แรงยึดเหนี่ยวระหว่างน้ ามันกับแร่เขี้ยวหนุมาน หรือแร่แคลไซต์มีน้อยกว่าน้ ากับแร่ดังกล่าว น้ ามันจึงผ่านไปได้
                 แต่น้ ายังคงยึดเกาะอยู่ น้ ายึดเกาะข้างเม็ดแร่อย่างมากส่วนน้ ามันอยู่ตรงกลางช่องว่างโดยไม่ยอมผสมกัน และเบา
                 กว่าน้ ามาก ดังนั้นน้ ามันจึงลอยสูงขึ้นมาเจอแหล่งกักเก็บ และสะสมตัวอยู่ได้เหนือน้ าใต้ดิน และโอกาสที่จะสะสมอยู่

                 ได้ในตะกอนมีเพียง 0.1% ของน้ ามันที่เกิดมาหินทรายเป็นหินกักเก็บได้ดีกว่าหินปูนปิโตรเลียมเป็นเชื้อเพลิงซาก
                 ดึกด าบรรพ์เกิดจากการกลายเป็นซากดึกด าบรรพ์ของอินทรีย์วัตถุ เช่น แพลงก์ตอนสัตว์และสาหร่ายซึ่งซากดึกดํา
                 บรรพ์จ านวนมากของอินทรียวัตถุเหล่านี้ยังอยู่ ณ ก้นทะเลหรือทะเลสาบ ผสมกับตะกอน และถูกฝังอยู่ใต้สภาวะที่

                 ไม่มีออกซิเจน เมื่อมีการทับถมกันสะสมเพิ่มขึ้นที่ก้นทะเลหรือทะเลสาบ ก็จะเกิดความร้อนและความดันอย่าง
                 รุนแรงเกิดขึ้นที่ชั้นต่ ากว่า









                            หินทราย                  หินดินดาน           ศึกษาเรื่องหินเพิ่มเติมได้ที่นี่ เลยค่ะ สแกนเลย



















                              ตัวอย่างโครงสร้างแหล่งกักเก็บ                    ตัวอย่างฟอสซิลปลา
                                                                   ภาพที่ 1.2 หินชนิดต่างๆ

                                      ที่มา ( หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ สารและสมบัติของสาร ชั้น ม.4-6)
   1   2   3   4   5   6