Page 1699 - บทคดยอการทดลองสนสด 58 สมบรณ_Neat
P. 1699
รายงานผลการทดลองสิ้นสุด ปี 2558
1. ชุดโครงการวิจัย วิจัยและพัฒนาการอารักขาพืช
2. โครงการวิจัย การศึกษาและพัฒนาประสิทธิภาพในการป้องกันกำจัดศัตรูพืช
3. ชื่อการทดลอง ทดสอบผลของสารป้องกันกำจัดศัตรูมันสำปะหลังต่อแมลงศัตรูธรรมชาติ
Toxicity of Cassava Pesticides on Natural Enemies
1/
4. คณะผู้ดำเนินงาน รจนา ไวยเจริญ อัมพร วิโนทัย 1/
ประภัสสร เชยคำแหง พัชรีวรรณ จงจิตเมตต์ 1/
1/
5. บทคัดย่อ
เพื่อทราบผลกระทบของสารป้องกันกำจัดศัตรูมันสำปะหลังต่อแมลงศัตรูธรรมชาติ 2 ชนิด ได้แก่
แตนเบียนเพลี้ยแป้งสีชมพู Anagyrus lopezi (De Santis) และ ด้วงเต่าตัวห้ำ Cryptolaemus
montrouzieri Mulsant ได้ทำการทดลองที่กลุ่มกีฏและสัตววิทยา สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช
ระหว่างเดือนตุลาคม 2556 ถึงกันยายน 2558 ในสภาพห้องปฏิบัติการ วางแผนการทดลองแบบ CRD
มี 3 ซ้ำ จำนวน 18 กรรมวิธี ทดสอบกับสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่ใช้ในมันสำปะหลังชนิดต่างๆ
ตามอัตราแนะนำ โดยวิธีการเคลือบสารในหลอดทดลอง (dry film method) หลังจากเคลือบสารแล้ว
0 (หลังผึ่งให้แห้ง) 7 14 และ 21 วัน ปล่อยตัวเต็มวัยแตนเบียนเพลี้ยแป้งสีชมพู หรือด้วงเต่าตัวห้ำ
ให้สัมผัสสาร และตรวจนับจำนวนแมลงตายที่ 24 และ 48 ชั่วโมง ส่วนสภาพโรงเรือนทดลอง วางแผน
การทดลองแบบ CRD มี 3 ซ้ำ จำนวน 9 กรรมวิธี ทดสอบโดยพ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่ใช้ใน
มันสำปะหลังชนิดต่างๆ ตามอัตราแนะนำ บนต้นมันสำปะหลัง อายุ 2 เดือน เก็บใบมันสำปะหลังหลังจาก
พ่นแล้ว 0 (หลังผึ่งให้แห้ง) 7 14 และ 21 วัน ปล่อยตัวเต็มวัยแตนเบียนเพลี้ยแป้งสีชมพู หรือด้วงเต่าตัวห้ำ
ให้สัมผัสสาร และตรวจนับจำนวนตัวตายที่ 24 และ 48 ชั่วโมง วิเคราะห์ข้อมูลอัตราการตายและจัดระดับ
ความเป็นพิษของสารต่อศัตรูธรรมชาติ ตามวิธีการของ IOBC (Hassan, 1994) ผลการทดลอง พบว่า
สารป้องกันกำจัดศัตรูมันสำปะหลังมีผลต่อแมลงศัตรูธรรมชาติ 2 ชนิด โดยมีระดับความเป็นพิษสอดคล้องกัน
ระหว่างผลการทดลองในห้องปฏิบัติการ และในสภาพโรงเรือนทดลอง กล่าวคือในสภาพโรงเรือนมีระดับ
ความเป็นพิษที่เท่ากันหรือน้อยกว่าเล็กน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับผลการทดลองในห้องปฏิบัติการ แต่มี
ระยะเวลาความเป็นพิษสั้นกว่า
ผลของสารป้องกันกำจัดศัตรูมันสำปะหลังต่อตัวเต็มวัยแตนเบียนเพลี้ยแป้งสีชมพู A. lopezi
พบว่าในห้องปฏิบัติการ สารที่ไม่มีความเป็นพิษ (เปอร์เซ็นต์ตาย < 30) ได้แก่ สารป้องกันกำจัดไร
สไปโรมีซิเฟน (spiromesifen) 24% SC อัตรา 6 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร และ เฟนบูตาตินออกไซด์
(fenbutatin oxide) 55% SC อัตรา 6 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร และสารกำจัดวัชพืช พาราควอต
(paraquat) 27.6% SL อัตรา 80 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร และในสภาพโรงเรือน สารที่ไม่มีความเป็นพิษ
ได้แก่ สารป้องกันกำจัดไร สไปโรมีซิเฟน (spiromesifen) 24%S C อัตรา 6 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร
___________________________________________
1/ สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช
1632