Page 17 - ไม้แกะสลักล้านนา ปูมผญาสล่าเมือง
P. 17

  17
สล่าแป๋งต้องควักไม้ล้านนา
 “นครลําปําง นครแห่งไม้สัก”
ลาปางเป็นเมืองที่มีพื้นที่ป่าไม้ คิดเป็นพื้นที่ ๖๘.๔๐% ในอดีตลาปางเป็นเมืองที่อุดมด้วยไม้สักซึ่งเป็นไม้ที่เป็น ทตี่ อ้ งการของตลาดไมว่ า่ ในยคุ สมยั ไหน การสมั ปทานปา่ ไมใ้ นเขตภาคเหนอื นนั้ เรมิ่ ตน้ เมอื่ รฐั บาลไทยตกลงทา สนธสิ ญั ญาบาวรงิ่ ใน พ.ศ. ๒๓๖๙ โดยมีบริษัทบอร์เนียว มาเริ่มทากิจการป่าไม้ใน พ.ศ. ๒๔๐๗
ภาคเหนอื ในเวลานนั้ เปน็ ระบบเจา้ ผปู้ กครองนคร โดยผตู้ อ้ งการตดั ไมต้ อ้ งดรี บั การอนญุ าตจากเจา้ หลวงผคู้ รองนครนนั้ ๆ โดยผู้สัมปทานจะต้องจ่ายเงินค่าตอไม้ให้กับเจ้าหลวง เจา้ ผปู้ กครองนครลา ปางในยคุ สมยั นนั้ คอื เจา้ บญุ วาทยว์ งศม์ านติ ย์ ซึ่งมีสายสัมพันธ์อันดีกับ นายหลุยส์ โทมัส กุนนิส เลียวโนเวนส์ ซึ่งในเวลานั้นทางานอยู่ที่บริษัท บอร์เนียว (ในบางตารา ใช้ชื่อว่า British Borneo ในเล่มนี้ใช้คาว่าบริษัท บอร์เนียว ตามป้ายชื่อของบริษัทในภาพ-ผู้เขียน) ไม้สักนั้นเป็นที่ ต้องการของประเทศอังกฤษมาก จึงมีหลายบริษัทเข้ามาสัมปทานไม้เพื่อส่งไปขายยังอังกฤษ อันได้แก่
๑. บริษัทบอร์เนียว (Borneo Company Northern Office)
๒. บริษัท บอมเบย์ เบอร์มา เทรดดิ้ง (Bombay Burmah Trading Corporation, Ltd.)
๓. บริษัท สยามฟอเรส (Siam Forest) ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท แองโกลสยามและแองโกลไทย
๔. บริษัท หลุยส์ ที เลียวโนเวนส์ (ประเทศไทย) จากัด (Louis Thomas Leonowens (Thailand) Ltd.) นอกเหนือบริษัทต่างชาติแล้ว ยังมีบริษัท ล่าซา บริษัท กิมเซ่งหลี บริษัทของคนไทย ที่เข้ามารับการสัมปทาน
ป่าไม้สักในเวลานั้น
เมื่อความต้องการไม้สักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงมีข้อพิพาทระหว่างบริษัทบ่อยครั้งในเรื่องของการทาไม้ในแต่ละแปลง
ด้วยเหตุนี้ บริษัทต่างๆ ร้องทุกข์ไปยังรัฐบาล ดังนั้น ในช่วง พ.ศ. ๒๔๓๘-๒๔๓๙ รัฐบาลสยามในสมัยของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้ขอยืมตัวผู้เชี่ยวชาญเรื่องการทาป่าไม้มาจากรัฐบาลอังกฤษที่อินเดีย คือ นายเอช สเลด (H.Slade) พร้อมทั้ง ตั้งกรมป่าไม้ขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยแต่งตั้งให้เป็นเจ้ากรมป่าไม้คนแรก และ ให้กรมป่าไม้มีอานาจในการอนุมัติการสัมปทาน ด้วยเหตุนี้จึงทาให้ผู้ปกครองเมืองเสียผลประโยชน์ ด้วยเหตุว่ารายได้ มาจากเงินเดือนและส่วนแบ่งจากค่าตอไม้ ดังนั้นในปีพ.ศ. ๒๔๔๐-๒๔๔๓ รัฐบาลจึงได้ทาเรื่องขอรับโอนกรรมสิทธิ์พื้นที่ และการอนุญาตให้สัมปทานป่าไม้ จากเจ้าเมืองต่างๆให้มาเป็นของรัฐบาล โดยยอมจ่ายส่วนแบ่งค่าตอไม้ครึ่งหนึ่งให้กับ เจ้าเมือง
ด้วยพม่าเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ ดังนั้นชาวอังกฤษจึงได้นาแรงงานจากพม่า ทั้งคนเงี้ยว ขมุ ตองซู ในพม่าเข้า มาอาศัยอยู่ในนครลาปางมากมาย
สมยั นนั้ ลา ปางมโี รงเลอื่ ยแปงไมห้ ลายโรงงาน อาทิ โรงเลอื่ ยไมว้ นชยั (ตระกลู วนชยางคก์ รู ) โรงเลอื่ ยไมพ้ นาสทิ ธิ์ เนอื่ งจากลา ปางเปน็ แกะไมส้ ลกั อยา่ งทเี่ ลา่ มาขา้ งตน้ ทา ใหเ้ กดิ ฝมี อื ชา่ งทา ไม้ เชน่ ชา่ งสรา้ งบา้ น ชา่ งฉลลุ ายไม้ ชา่ งแกะสลกั ที่เรียกว่า “สล่าไม้” ที่ชานาญที่มีฝีมืองานไม้ประณีตศิลป์เกิดขึ้นหลายหมู่บ้าน
จากการสัมมนา “ลาปางเมืองมรดกโลก” ที่สภาวัฒนธรรมลาปางจัดขึ้น คุณปองพล อดิเรกสาร หนึ่งในคณะ กรรมการพิจารณาขึ้นทะเบียนเมืองมรดกโลกกล่าวว่า “ถ้าลาปางสามารถหาหลักฐานว่า ไม้สักของลาปางถูกส่งไปเมือง ไหน และได้สร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในโลก อาทิ หอนาฬิกาบิ๊กเบนที่อังกฤษ พระราชวัง ฯลฯ ก็จะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น เมืองมรดกโลกเลย”
บทความโดย นางจันทร์สม เสียงดี อดีตผู้อานวยการสานักการศึกษาเทศบาลนครลาปาง ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีนครลาปาง
  สํานักงํานวฒันธรรมจงัหวดัลําปําง
ไม้แกะสลักล้านนา ปูมผญาสล่าเมือง

















































































   15   16   17   18   19