Page 3 - ผู้ถึงพร้อมดว้ยศีล
P. 3
ผู้ถึงพร้อมด้วยศีล
สมบูรณ์๑ มีปาติโมกข์สมบูรณ์ส้ารวมแล้วด้วยปาติโมกข์สังวร๑ ถึงพร้อมด้วยอาจาระ
และโคจร๑ มีปรกติเห็นภัยในโทษแม้เพียงเล็กน้อย๑ สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบท
ทั้งหลาย๑ จะมีกิจอะไรที่เธอทั้งหลายต้องกระท้าให้มากไปกว่านี้อีกเล่า
จะเห็นว่าภิกษุในธรรมวินัยนี้ต้องประพฤติปฏิบัติถึง ๕ นัยยะ และที่จะน้ามา
ถ่ายทอดให้เห็นในที่นี้คือนัยยะแรก คือ “ผู้ถึงพร้อมด้วยศีล” ซึ่งตถาคต ตรัสไว้ชัดเจน
ถ้าแบ่งเป็นส่วน ศีลแบ่งได้เป็น ๓ ส่วน ประกอบด้วยจุลศีล มัชฌิมศีลและมหาศีล
ตามวัตถุประสงค์แล้วศีลมีไว้เพื่อก้ากับดูแลกายวาจาให้งาม ไม่ให้ไปก้าวล่วงผู้อื่นอัน
จะท้าให้เกิดเวรภัยต่อตนเองและผู้อื่น ซึ่งจะขออธิบายเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายขึ้นว่า
ศีลทั้งสามส่วนนี้มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร
ส่วนแรกคือจุลศีล เป็นศีลพื้นฐานมี ๒๖ ข้อ ซึ่งเปรียบเป็นบ้านก็เสมือนพื้นดิน
พื้นบ้านเป็นส่วนที่เป็นฐานต้องมีความแน่นหนาสามารถรองรับน้้าหนักและส่วนต่างๆ
ของตัวบ้านได้เป็นอย่างดี ถ้าขาดส่วนนี้คงมีบ้านไม่ได้จึงเป็นส่วนแรกที่ส้าคัญมาก
ส่วนที่สองมัชฌิมศีลอยู่ระหว่างกลางจะเป็นเหมือนเสาเหมือนผนังหรือฝาบ้าน
โอบล้อมปิดกั้นบ้านไว้มี ๑๐ ข้อ เป็นส่วนขายความของจุลศีลให้มีความชัดเจนคลอบ
คลุมยิ่งขึ้น
และสามมหาศีลอยู่ด้านบนสุดเป็นที่มุงบังซึ่งเปรียบเสมือนหลังคาบ้าน มี ๖ ข้อ
เป็นส่วนที่กล่าวถึงการเลี้ยงชีพของภิกษุซึ่งพระศาสดาให้เลี้ยงชีพด้วยความสุจริตให้
เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพด้วยดิรัจฉานวิชาโดยตรัสบอกไว้อย่างละเอียดว่าดิรัจฉานวิชา
มีอะไรบ้าง จะได้มีความละอายใจไม่ท้าผิด เกรงกลัวต่อผลของการกระท้าผิดนั้นๆ
ทั้งสามส่วนเมื่อน้ามาประกอบกันเข้าจึงจะท้าให้ตัวบ้านสมบูรณ์เป็นบ้านที่อยู่
อาศัยได้อย่างปลอดภัยถ้าขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไปหรือมีไม่ครบก็จะท้าให้บ้านหลังนั้นไม่
สมบูรณ์พร้อม ฉันใด ศีลทั้งสามส่วนนี้ก็ฉันนั้น ศีลย่อมท้าให้งามพร้อมเหมือนกัน
จุลศีล คือศีลที่เป็นพื้นฐานส าคัญจะขาดเสียมิได้
๑. ละการฆ่าสัตว์ เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ วางโทษทัณฑ์ วางศาตราอาวุธ
มีความละอาย มีความเอ็นดู มีความกรุณา หวังประโยชน์แก่สัตว์ทั้งปวงอยู่
๒. ละการลักทรัพย์ เว้นขาดจากการลักทรัพย์ รับแต่ของที่เขาให้ ต้องการแต่
๓
ถ่ายทอดค าสอน ตถาคต อรหันตสัมมาสัมพุทธะ โดย หญ้าพันปี