Page 3 - บุญตามหลักคำสอน ตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธะ
P. 3

สมณพราหมณ์เทวดาและมนุษย์ให้รู้ตาม ทรงแสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามใน

             ท่ามกลาง งามในที่สุด ทรงประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ


             บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง  ความศรัทธาในพระพุทธเจ้าต้องศรัทธาอย่างนี้จึงเป็นศรัทธาที่

             ถูกต้อง


                    ๒. ศรัทธาหรือเชื่อว่าพระธรรมค าสั่งสอนของตถาคต ว่าพระธรรมเป็นสิ่งที่พระผู้

             มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตนเอง เป็นสิ่งที่


             ปฏิบัติได้และให้ผลได้ไม่จ ากัดกาล เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกับผู้อื่นว่าท่านจงมาดูเถิด เป็นสิ่งที่

             ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน ดังนี้ เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว ความศรัทธาในพระธรรมต้อง
             ศรัทธาอย่างนี้จึงเป็นศรัทธาที่ถูกต้อง



                    ๓. ศรัทธาหรือเชื่อว่าสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว สงฆ์

             สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติตรงแล้ว สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า

             เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อรู้ธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์แล้ว สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า


             เป็นผู้ปฏิบัติสมควรแล้ว ได้แก่บุคคลเหล่านี้คือ คู่แห่งบุคคลสี่คู่ ถ้านับเรียงตัวบุคคลได้

             แปด นั่นแหละ คือสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขาน ามา

             บูชา เป็นสงฆ์ที่เป็นนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ดังนี้ เป็นสงฆ์ควรรับทักษิณา

             ทาน เป็นสงฆ์ที่บุคคลทั่วไปจะพึงท าอัญชลี เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขาจัดไว้ต้อนรับ

             ความศรัทธาในพระสงฆ์ต้องศรัทธาอย่างนี้จึงเป็นศรัทธาที่ถูกต้อง


                    นี่คือค าว่าเป็นผู้มีจิตศรัทธา ต้องศรัทธาอย่างนี้ และต้องเป็นศรัทธาที่หยั่งลงมั่นไม่


             หวั่นไหวด้วยดี ไม่มีอะไรมาดึงศรัทธาเราออกไปจากรัตนะทั้งสามได้ ไม่ไปศรัทธาในภูเขา

             ต้นไม้ สัตว์เดรัจฉาน เดรัจฉานวิชาเครื่องรางของขลังต่างๆ  หรือเทพเจ้าทั้งหลาย ซึ่งไม่

             มีในพุทธศาสนา อย่าลืมว่า “ศาสนาพุทธเป็นอเทวนิยมไม่นับถือเทพเจ้า” “ศาสนา

             พุทธสอนให้รู้ในความจริงแท้ตามธรรมชาติ” คือให้รู้ว่าธรรมชาติของสิ่งทั้งปวงนั้นมี

             ลักษณะสามประการเหมือนกันหมดคือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา (อนิจจังคือความไม่เที่ยง

             แท้แน่นอนต้องผันแปรไปตามเหตุตามปัจจัยตลอดเวลา ทุกขังคือความทนได้ยากต้อง

             แตกดับหรือตายในที่สุด อนัตตาคือความไม่ใช่ตัวตนที่จริงของมันอยู่ระหว่างมีกับไม่มี) ไม่

             มีอะไรเป็นนิรันด์ ทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ชั่วขณะ สุดท้ายก็ต้องแตกดับ ต่อให้เป็นอินทร์

             พรหม ยม ยักษ์ นาค ครุฑ มีฤทธิ์เดชหรืออายุยืนยาวขนาดไหนในสามโลก ก็ไม่อาจรอด




             บุญตามหลักค าสอนตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธะ      เรียบเรียงและถ่ายทอด โดย หญ้าพันปี               ๓
   1   2   3   4   5   6   7   8