Page 134 - จิตรกรรมปริศนาธรรมภาคใต้
P. 134
การกระทาทางกาย วาจาใจ เป็นการกระทาความชั่ว เพราะอานาจกิเลสหรือ มิจฉาทิฏฐิ หรือกรรมดา ในภาพจึงเขียนพ้ืนหลังสีดามืด หมายถึงกรรมดา หมายถึงคนที่ทาความชั่วมักทาในท่ีมืด ภาพคนไม่นุ่งผ้า หมายถึงไม่มี หิริโอตัปปะ ไม่มีความละอายต่อบาป และถูกโซ่ตรวนล่ามลากลงสู่ท่ีต่าโดยนางยักษิณี คือ กิเลสหรือมิจฉาทิฏฐิ
คติควํามเชื่อกุศลกรรม-กรรมดี-กรรมขําว กระทาได้ 3 ทาง คือ
1) กํายกุศลกรรม หมายถึง การกระทาความดีในทางกายแต่เป็นการทาดีที่ประกอบด้วยกิเลส เป็นการ ทาดีเพื่ออวด ทาดีหวังผลตอบแทน เจตนาเพ่ือให้คนอ่ืนชม เป็นการกระทาท่ีประกอบด้วยความยึดม่ันถือม่ัน ก็ยังไม่พ้นไป
จากกรรม
2) วจีกุศลกรรม หมายถึง การกระทาความดีทางวาจา เป็นคาพูดที่ประกอบ ด้วยกิเลสหรือมิจฉาทิฏฐิ
ฟังคาพูดข้างนอกเป็นเร่ืองดีมีประโยชน์ แต่เบื้องหลังภายในจิตใจไม่บริสุทธิ์ คาพูดนั้นเป็นวจีกรรมดี
3) มโนกุศลกรรม หมายถึง การกระทาความดีในทางจิตใจ เป็นความคิดท่ีดี แต่ประกอบด้วยมิจฉาทิฏฐิ
เป็นความคิดท่ียังไม่บริสุทธิ์ ความคิดเหล่าน้ันก็ยังเป็นมโนกรรมดี
“กรรม” ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว เปรียบเหมือนงู ธรรมชาติของงู เวลาเล้ือยจะคดงอไปมา
หมายความว่า การกระทาทางกาย วาจา ใจ ท่ีประกอบด้วยกิเลส เป็นการกระทาที่ไม่ชื่อตรง เป็นการกระทาที่คดๆ งอๆ เป็นมายาเหมือนกับงู จะส่งผลให้เป็นทุกข์เดือดร้อนในภายหลัง
สรุปความเช่ือของการกระทาความดีทางกาย วาจา ใจ ประกอบด้วยกิเลส หรือ มิจฉาทิฏฐิ เรียกว่า กรรมดี หรือกรรมขาว ในภาพเขียนปริศนาธรรม เขียนพื้นหลังสีขาว หมายถึงกรรมดี หรือ กรรมขาว หมายความว่า คนส่วนมาก ในเม่ีอทาความดีมักจะทาในท่ีแจ้ง เพ่ือให้คนอื่นเห็น ให้สังคมสรรเสริญยกย่อง ถ้าคนไม่เห็นไม่ค่อยทาดีกัน
1.5 กํารจัดองค์ประกอบศิลป์ภําพปริศนําธรรม
1
3
2
1
3
2
ภําพที่ 3-24 วัฎฏสงสาร 124