Page 22 - จิตรกรรมปริศนาธรรมภาคใต้
P. 22

  3. แนวคิดด้ํานกํารสังเครําะห์ภําพปริศนําธรรม แนวเรื่องอริยสัจจ์ 4
กํารสงั เครําะห์ (Synthesis) หมายถงึ การผสมผสานกนั อยา่ งกลมกลนื ของสว่ นประกอบตา่ งๆ จนกลายเปน็
ส่ิงใหม่ท่ีมีเอกลักษณ์ และคุณสมบัติเฉพาะ (เกรียงศักด์ิ เจริญวงศ์ศักดิ์, 2546: 2)
กํารสังเครําะห์ (Synthesis) เป็นการหล่อหลอมความรู้ ขุดความรู้จากการวิเคราะห์การตีความเข้าด้วยกัน
โดยอาศัยการครุ่นคิดใคร่ครวญ การวิพากษ์วิจารณ์จากมุมมองท่ีแตกต่างหลากหลาย เพ่ือช่วยให้การมองเห็นประเด็น ในหลายแง่มุม จนนาไปสู่วิธีวิทยาขั้นสุดท้าย คือ การสังเคราะห์ความคิดจากการศึกษาบนพ้ืนฐานข้อมูลเชิงประจักษ์ และ สอดคล้องกับแนวความคิด สมมติฐานจุดมุ่งหมายในการวิจัยสร้างสรรค์ และกระบวนการสร้างสรรค์อย่างเชื่อมโยงกัน (สุชาติ เถาทอง, 2559: 66)
แนวคิดกํารสังเครําะห์ภําพปริศนําธรรม แนวเรื่องอริยสัจจ์ 4
จากการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลภาพปริศนาธรรมในภาคใต้ แนวเร่ือง ปฏิจจสมุปบาท ไตรลักษณ์ อสุภะ 10 ธดุ งค์ 13 วรรณกรรมทอ้ งถนิ่ ภาคใต้ นา ไปสกู่ ารสงั เคราะหม์ มุ มอง โครงสรา้ งแนวความคดิ ใหม่ แนวเรอื่ งอรยิ สจั จ์ 4 เชอื่ มโยง สัมพันธ์เชิงเหตุผล โดยใช้หลักการสังเคราะห์แนวคิดใหม่บันได 7 ข้ันของศาสตราจารย์ ดร. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักด์ิ ดังน้ี
1) กํารกําหนดวัตถุประสงค์ของเร่ืองท่ีต้องกํารคิดเชิงสังเครําะห์ เป็นการหาแนวทางใหม่ โดยการกาหนด วัตถุประสงค์ และกาหนดเป้าหมาย โดยเช่ือมโยงกันเชิงเหตุผล และมีแหล่งข้อมูล
2) กํารกําหนดขอบเขตของประเด็นท่ีเกี่ยวข้อง การกาหนดกรอบเบื้องต้นในการค้นหาแหล่งข้อมูล โดยเน้นท่ี ความคิด ความรู้ ความจาหรือประสบการณ์เดิม นาไปสู่ประเด็นในการสังเคราะห์ เกิดเป็นรูปลักษณ์ใหม่ตามความต้องการ 3) กํารกําหนดลักษณะ และขอบเขตของส่ิงท่ีจะนํามําสังเครําะห์ กาหนดขอบเขตของข้อมูล ประกอบด้วย
แหล่งข้อมูลท่ีมีความชานาญ นาไปสู่ข้อมูลท่ีลึกซ้ึง แม่นยา น่าเชื่อถือมากขึ้น
4) กํารดึงเฉพําะแนวคิด (Concept) ท่ีเก่ียวข้องมําใช้ การดึงแนวคิด หมายความว่า การคัดสรรเฉพาะแก่น
ความคดิ ของขอ้ มลู ทตี่ อบวตั ถปุ ระสงคข์ องเราโดยไมส่ นใจรายละเอยี ดหรอื ประเดน็ อนื่ ๆ ทไี่ มเ่ กยี่ วขอ้ ง การกา หนดโครงสรา้ ง แนวคดิ โดยใชแ้ นวคดิ เชงิ มโนทศั น์ และการคดิ เชงิ วเิ คราะหเ์ ขา้ มาเกยี่ วขอ้ ง นา ไปสกู่ ารกา หนดแนวคดิ หลกั และแนวคดิ รอง 5) กํารจัดเรียงแนวคิดตํามโครงที่ต้ังไว้หรือสร้ํางแกนควํามคิดใหม่ เพ่ือตอบวัตถุประสงค์ การจัดระเบียบใหม่ ตามโครงสร้างการสังเคราะห์ท่ีกาหนดไว้ตามวัตถุประสงค์ โดยนาข้อมูลที่ค้นคว้าท่ีมีหลายประเด็นแล้วดึงแนวคิดออกมา และปรับเปลี่ยนโครงสร้างความคิดใหม่หรือสร้างแกนโครงสร้างใหม่ จะทาให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากข้ึน โดยอาจ สร้างแกนแนวความคิดให้หลายแกน เพื่อหาทางเลือก และสามารถปรับเปลี่ยนได้ โดยมีเหตุผล สนับสนุน มีขอบเขตชัดเจน
ไม่ซ้าซ้อน
6) ขั้นทดสอบโครงสร้ํางใหม่ เม่ือได้โครงสร้างการสังเคราะห์ท่ีมีเน้ือหาครบถ้วนแล้ว ให้ทดสอบโครงร่างน้ัน
เพอื่ พจิ ารณาวา่ โครงสรา้ งใหมท่ สี่ รา้ งขนึ้ เหมาะสมหรอื ไม่ โดยใชค้ วามคดิ เชงิ วพิ ากษ์ และความคดิ เชงิ วเิ คราะหม์ ารว่ มทดสอบ ด้วย และทดลองนาไปใช้จริง เพื่อทดสอบว่าใช้ได้เหมาะสมหรือไม่ มีส่ิงใดต้องปรับเปล่ียน อาจมีการจัดแกนแนวคิดใหม่ เพื่อลดจุดบกพร่อง และเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์
  12
          


















































































   20   21   22   23   24