Page 113 - การวิจัยทางศิลปะ
P. 113

                กระบวนการสร้างความรู้ในการวิจัยสร้างสรรค์ศิลปะ 105
 ตัวอย่าง การวิเคราะห์ผลงานจิตรกรรม
การวิเคราะห์ผลงานศิลปะ หมายถึง การพิจารณาแยกแยะ ศึกษาองค์รวมของงานศิลปะ ออกเป็นส่วน ๆ ทีละประเด็น ทั้งในด้านทัศนธาตุ องค์ประกอบศิลป์ เนื้อหาสาระ ทฤษฎีการรับรู้ ที่มีความสัมพันธ์กันในด้านเทคนิค กรรมวิธี การแสดงออก เพื่อนาข้อมูลเหล่านี้มาอธิบาย ตีความ มาประเมินผลงานศิลปะว่า ผลงานเหล่านั้นมีคุณค่าทางด้านความงาม ด้านเนื้อหาสาระ และอารมณ์ ความรู้สึกอย่างไร และสัมพันธ์กับการวิจารณ์งานศิลปะ หมายถึง การแสดงออกทางด้านความคิดเห็นต่อ ผลงานศิลปะที่ศิลปินสร้างสรรค์ข้ึน โดยการวิจารณ์จะใช้ความคิดเห็นตามหลักการศิลปะ เช่น ความงาม ด้านหลักการจัดองค์ประกอบ เนื้อหาสาระ ประเภทของงานศิลปะ เทคนิคกรรมวิธีท่ีต่างกัน แง่คิดที่ถูก ประเมินหรือตัดสินจากนักวิจารณ์ นักวิจัย ครูอาจารย์ นักวิชาการ เพื่อนาไปปรับปรุงผลงาน ผล งานศิลปะด้วยการวิเคราะห์ คิดเปรียบเทียบให้เห็นคุณค่าของผลงานเหล่านั้น โดยปราศจากอคติ จะทาให้เกิดมิติการมองผลงานการสร้างสรรค์ที่เป็นกลาง และจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนางานทาง ด้านศิลปะในระดับสากลต่อไป
การวิเคราะห์ผลงานจิตรกรรม “เกอร์นิก้า” ของปิกัสโซ ได้แสดงออกด้วยภาพผลงาน สีน้ามัน ซึ่งได้รับอิทธิพลจากแอฟริกา โดยแสดงออกรูปร่าง และรูปทรงที่มีลักษณะเหลี่ยมมุมโดย ถูกตัดทอนให้ดูเรียบง่ายหลากหลายมิติในภาพเดียว เส้นขัดแย้งวุ่นวายสับสน ใช้สีในการสื่อสัญลักษณ์ โดยใช้สีขาวตัดกับสีดาตัดเส้น แสดงให้เห็นความขัดแย้งความซับซ้อนของด้านต่างๆ ด้วยเส้นหนักเบา เพื่อต้องการสื่อถึงความสยดสยองของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชุมชนเมืองช่วงสงครามโลก ที่มีผลกระทบ กับชีวิตความเป็นอยู่ ประกอบด้วยภาพศพของนักรบ ภาพม้ากาลังตาย วัวกาลังร้อง จากสภาพบ้านเมือง ที่ถูกกระทา สีขาว เทา ดา ทาให้เหตุการณ์เกิดอารมณ์ความรู้สึกหดหู่ สิ้นหวัง ความเจ็บปวดสูญเสีย ซึ่งปิกัสโซได้บันทึกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านผลงานจิตรกรรม ได้อย่างสวยงามและมีคุณค่ายิ่งนัก ในส่วนการวิเคราะห์โครงสร้างผลงาน (Formal analysis) โครงสร้างส่วนรวมใช้รูปทรงเรขาคณิต คือ สามเหลี่ยม สี่เหล่ียมคางหมู ทับซ้อนบังกัน และเกิดจากการตัดทอนทับซ้อนกันของรูปทรงธรรมชาติ คือ คน สัตว์ ความน่าสนใจเกิดจากการตัดกันของสีขาวกับสีดา และภาพถูกตัดทอนด้วยเส้นน้าหนักเบา เพื่อต้องการสื่อถึงความสยดสยองของเหตุการณ์ รูปทรงจากธรรมชาติเป็นจุดแห่งความบันดาลใจ จากนั้นจึงค่อยๆ เพิ่มเติม ตัดทอนรูปทรงต่างๆ การใช้สีอย่างระมัดระวัง เป็นสีทึบๆ คล้ายสีเอกรงค์ มีความสัมพันธ์มีเอกภาพ ใช้สีขาว เทา ดา และน้าตาล ตัดทอนรูปทรงให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย นามา ประกอบกันใหม่ ให้มีการทับซ้อนบังกันและการสร้างมิติในภาพ ด้วยการทับซ้อนกันของรูปทรง และสีที่มีน้าหนักแตกต่างกันทาให้เกิดระยะมิติตื้นลึกที่น่าสนใจ































































































   111   112   113   114   115