Page 12 - การวิจัยทางศิลปะ
P. 12
4
การวิจัยทางศิลปะ บทที่ 1
2534, น.3) ผลงานประยุกต์ศิลป์ ประกอบด้วยงานศิลปะหลายสาขาดังนี้ ออกแบบนิเทศศิลป์ (Communication Art) อุตสาหกรรมศิลป์ (Industrial Art) พาณิชย์ศิลป์ (Commercial Art) งานตกแต่งภายใน (Interior Design) งานออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product Design) มัณฑนศิลป์ (Decorative Art) ผลงานเหลา่ นจี้ ะพบทวั่ ไปในชวี ติ ประจา วนั เปน็ การนา ศลิ ปะบรสิ ทุ ธมิ์ าเพมิ่ ความงาม ให้เข้ากับสถานท่ีต่างๆ เพื่อความสะดวกสบาย และดึงดูดความสนใจกับผู้บริโภคและกลุ่มเป้าหมาย ถือว่าเป็นผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นจากมนุษย์ โดยมุ่งเน้นความงามและควบคู่ไปกับประโยชน์ใช้สอย เป็นสาคัญ จะเป็นงานชิ้นเดียวหรืองานอุตสาหกรรมก็ได้ ผลงานศิลปะ จะนามาซึ่งความสะดวกสบาย และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจาวัน
1.1.1 การวิจัยทางศิลปะ หมายถึง การศึกษา การค้นคว้าหาความรู้ทั้งงานวิจิตรศิลป์ และประยุกต์ศิลป์ อย่างมีระบบและแบบแผน มีจุดมุ่งหมายที่แน่นอนชัดเจนในการดาเนินการศึกษา ตีความ วิเคราะห์ สังเคราะห์ อย่างมีเหตุผลตามระเบียบวิธีวิจัย ให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริง ความรู้ องคค์ วามรู้ ตามกระบวนการหาคา ตอบตามวตั ถปุ ระสงค์ ทจี่ ะตอ้ งมกี ารบนั ทกึ และรายงานผลการวจิ ยั เชิงวิชาการ โดยมีแนวทางการวิจัยทางศิลปะ ดังนี้
1) การสร้างสรรค์ศิลปะ หรือ Pure Practice เป็นการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพื่อตอบสนองความต้องการส่วนตัว เน้นที่ผลของการปฏิบัติหลักให้ความสาคัญทั้งในส่วนของ กระบวนการปฏิบัติ ประสบการณ์ขณะปฏิบัติ และผลของการปฏิบัติ (ทั้งการสร้างสรรค์ ระหว่าง การสร้างสรรค์ และหลักการสร้างสรรค์)
2) การวิจัยสร้างสรรค์ศิลปะ หรือ Practice led Research เป็นการทางาน สรา้ งสรรค์ โดยการปฏบิ ตั เิ ปน็ เครอ่ื งมอื นา ไปสคู่ วามรใู้ หมใ่ นสาขานนั้ ๆ ทงั้ นอี้ าจเนน้ ถงึ ความรู้ ทไี่ ดจ้ าก กระบวนการศึกษา และสร้างสรรค์ที่แสดงออกด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของผลงาน (Originality) หรือการพัฒนาความรู้ในการปฏิบัติงานสร้างสรรค์ในสาขาหนึ่ง ๆ
3) การวิจัยผลงานศิลปะหรือTheoreticalPracticeResearchเป็นการเรียนรู้ จากคนอนื่ วเิ คราะหผ์ ลงานคนอนื่ ดว้ ยการศกึ ษาหรอื คน้ ควา้ อยา่ งมรี ะบบ มวี ทิ ยาการวจิ ยั เพอื่ ใหไ้ ดม้ า ซึ่งข้อมูลคาตอบ หรือ ข้อสรุปรวมที่จะนาไปสู่ความก้าวหน้าทางวิชาการ หรือ เอื้อต่อการนาวิชาการ ไปประยุกต์ (สุชาติ เถาทอง, 2563, น.36)

