Page 124 - การวิจัยทางศิลปะ
P. 124
116
การวิจัยทางศิลปะ บทที่ 5
กระบวนการสร้างสรรค์องค์ประกอบศิลป์ของรูปทรง กับเนื้อหาให้มีความสัมพันธ์ และเชื่อมโยงกันให้เกิดความเป็นเอกภาพ และแสดงอารมณ์ความรู้สึกที่เป็นไปตามแนวเรื่อง จะต้อง มีส่วนประกอบในการผสมผสาน ดังเช่น การวิเคราะห์ การจินตนาการ และความหมายจินตนาการ เชิงอุดมคติ ทฤษฎีทางศิลปะ ทฤษฎีความงามและวิธีคิด วิธีทา ในการปฏิบัติ การสร้างสรรค์ตาม หลักการทางองค์ประกอบศิลป์ร่วมด้วย จะทาให้ผลงานนั้นมีคุณภาพตามวัตถุประสงค์และสมมุติฐาน ตามที่ได้กาหนดไว้
1. จินตนาการเพื่อการสร้างสรรค์
การจินตนาการของนักวิจัย นักสร้างสรรค์ ถือว่าเป็นสิ่งสาคัญที่จะนาไปสู่ความงาม ความสนใจสิ่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นกับสังคมปัจจุบัน ไม่ว่าจะวงการการศึกษา ธุรกิจ อุตสาหกรรม ศิลปกรรม และนวัตกรรม ซึ่งมาจากจุดเริ่มต้นของความฝัน ใฝ่ฝัน คาดการณ์ คาดคะเน ความรู้สึกแปลกพิสดาร ที่เกิดขึ้นนาไปสู่การศึกษา ค้นคว้า ทดลอง เพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ขึ้นตามมา
จินตนาการ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน พ.ศ.2542 ให้นิยามว่า “จินตนาการ” การสร้างขึ้นในจิต (ป.จินตน+อาการ)
กาจร สุนพงษ์ศรี คือ การนึกเดา นึกฝัน สมมติขึ้น แต่งขึ้น คิดขึ้นเอาเองเหล่านี้ คือ จินตนาการ ถ้าเป็นภาพก็เรียกจินตภาพ (Image) เป็นภาพของสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ปรากฏขึ้นในจิต อาจเป็นภาพของสิ่งที่มีอยู่จริง ซึ่งจิตเคยมีประสบการณ์มาก่อนหรือเป็นภาพที่จิตจินตนาการ (Image) คิดสร้างขึ้นมาเอง โดยสิ่งนั้นไม่เคยมีอยู่เลย
ศิลป์ พีระศรี ให้คานิยามว่า ความนึกเห็นเป็นมโนภาพภายในใจ แล้วสร้างสิ่งใด ขึ้นตามรูปที่มีจินตนาการ เป็นคามีความหมายคล้ายคลึงกับคาว่า Conceive และ conceivers มีการนึกเห็นเป็นภาพจุติขึ้นมาได้ 2 ทาง คือ ประการแรก ผลจากความรู้สึกสะเทือนใจ บางประการ ของศิลปิน อันมีปัจจัยจากโลกภายนอก ประการที่สอง เกิดจากอานาจแห่งความนึกคิดของศิลปินเอง
ชลูด นิ่มเสมอ ให้ความหมายว่า จินตนาการ คือ พลังของจิตที่สร้างภาพขึ้นใหม่ ภายในใจให้น่าพอใจกว่า สวยกว่า เป็นระเบียบกว่า หรือร้ายกาจกว่าสิ่งที่อยู่ในธรรมชาติทั่วไป จนิ ตนาการจะทา ใหเ้ กดิ ภาพขนึ้ ในสา นกึ เราเรยี กภาพชนดิ นวี้ า่ “จนิ ตภาพ” (Image) เปน็ “จนิ ตภาพทางใจ” (Mental image) หรือ ภาพในจิตใจ (สุชาติ เถาทอง, 2565, น.38)

