Page 69 - การวิจัยทางศิลปะ
P. 69
ฐานความรู้เพื่อการวิจัยทางศิลปะ 61
5. การศกึ ษาเนน้ สนุ ทรยี ศาสตรแ์ ละเชงิ ชา่ ง การวนิ จิ ฉยั ความงามตามหลกั สนุ ทรยี ศาสตร์ และเชิงช่าง แม้ยังมีปัญหาในการนามาใช้กาหนดอายุ แต่มีประโยชน์ในทางอื่น เช่น ช่วยกาหนดคุณค่า ช่วยอธิบายกรรมวิธีทางช่างที่ส่งผลต่องานศิลปกรรม
การศึกษาประวัติศาสตร์จากการบอกเล่า และเทคนิคการเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์
ในบางกรณอี าจไมส่ ามารถหาแหลง่ ขอ้ มลู จากเอกสารได้ แตย่ งั มแี หลง่ ขอ้ มลู ซง่ึ เปน็ บคุ คลที่ ยงั มชี วี ติ อยแู่ ละมคี วามรเู้ กยี่ วกบั ประเดน็ ทตี่ อ้ งการศกึ ษาเปน็ อยา่ งดี สามารถใชร้ ปู แบบการหาคา ตอบ จากการสัมภาษณ์ (Method of Interview) ซึ่งมีลักษณะพิเศษดังต่อไปนี้
1. ข้อดี ข้อควรระวังของการสัมภาษณ์ ข้อดี คือ ทาให้ได้ข้อมูลเชิงลึก และบางครั้ง แม้บุคคลที่ต้องการศึกษา (เช่น ศิลปิน) ได้เสียชีวิตไปแล้ว ก็ยังอาจหาข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ จากบคุ คลใกลช้ ดิ เชน่ ครอบครวั เพอ่ื นสนทิ เพอ่ื นรว่ มงาน หรอื ลกู ศษิ ยไ์ ด้ แตก่ ม็ ขี อ้ ควรระวงั คอื อาจเกดิ ความผิดพลาดจากความลาเอียงหรือการจาผิดได้
2. ปัจจัยที่มีผลต่อความสาเร็จในการเก็บข้อมูลความรู้ประวัติศาสตร์ศิลป์จากการ
สัมภาษณ์
2.1 การเตรียมการก่อนสัมภาษณ์ ผู้วิจัยต้องกาหนดให้ชัดเจน ว่าจะถามใคร
และถามเรื่องอะไร จากนั้นศึกษาว่ามีใครทาการสัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อจะได้ถามสิ่งที่ไม่เคยมีใคร ถามมาก่อน เตรียมตั้งคาถามล่วงหน้า และจะต้องนัดหมาย วันเวลา สถานที่ให้แน่นอน
2.2 ทาตามขั้นตอนการสัมภาษณ์ จะต้องพาทีมงานไปบันทึกเสียงและภาพ ตามที่ นัดหมาย เมื่อเก็บข้อมูลได้แล้วต้องนามาถอดเทป แล้วจึงเรียบเรียงใหม่โดยตัดส่วนที่เป็นความลับ หรืออาจทาให้เกิดผลเสียจากการเผยแพร่ข้อมูล จากนั้นเก็บข้อมูลไว้ในที่ปลอดภัย พร้อมใช้ และรู้ว่า จะนาไปใช้ในส่วนใดของการวิจัยสร้างสรรค์
2.3 ชั้นเชิงและเทคนิคการตั้งคาถาม ปรับตามลักษณะผู้ให้ข้อมูล หากเป็นคนที่ ไมค่ อ่ ยพดู แตร่ ขู้ อ้ มลู เปน็ อยา่ งดี อาจตอ้ งเปลยี่ นคา ถามเพอื่ ใหร้ สู้ กึ สบายใจทจี่ ะตอบมากขนึ้ หรอื หากเปน็ คนที่มีข้อมูลไม่ตรงกับเรื่องที่สนใจ ก็จะต้องค่อย ๆ ดึงประเด็นกลับมาในหัวข้อที่ต้องการอย่างนุ่มนวล แต่โดยปกติแล้วสิ่งที่สาคัญคือ จะต้องปล่อยให้ผู้สัมภาษณ์พูดตามธรรมชาติ เพื่อไม่ให้เกิดความเครียด
สรุป การนาไปใช้ในการศึกษา วิเคราะห์ ตีความฐานความรู้จากวิชาประวัติศาสตร์ ผู้วิจัย จะต้องพิจารณาเลือกให้เหมาะสมกับเรื่องที่สนใจ และกระบวนการวิจัยสร้างสรรค์ด้านใดบ้าง และใช้ ฐานความรอู้ ธบิ ายรายละเอยี ดตามกระบวนการ เพอื่ ใหไ้ ดม้ าซงึ่ ขอ้ มลู ความรตู้ ามแนวทางใดใหเ้ หมาะสม ในการศกึ ษา วเิ คราะหใ์ หเ้ กดิ ชดุ ความรู้ ทงั้ ทปี่ รากฏอยใู่ นผลงานศลิ ปกรรมในอดตี ปจั จบุ นั และการบอกเลา่ ประวัติศาสตร์ เพื่อนาชุดความรู้อธิบายเชิงวิชาการ และต่อยอดสร้างสรรค์ศิลปะต่อไป หรือนาข้อมูล ไปบริหารจัดการศิลปวัฒนธรรม เป็นต้น
