Page 88 - การวิจัยทางศิลปะ
P. 88
80
การวิจัยทางศิลปะ บทที่ 4
ประเภทของการวิจัยเชิงประวัติศาสตร์ แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ
1. การวิจัยที่เน้นกระบวนการศึกษาเป็นรายกรณี เป็นการศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลที่เลือก กลุ่มตัวอย่างเฉพาะ โดยการศึกษาเจาะจงกับผลงานศิลปกรรม เช่น ประติมากรรมในสมัยอยุธยา หรือศิลปิน บุคคลใดบุคคลหนึ่ง เช่น ศิลปินไทยที่สร้างสรรค์ผลงาน แนวเรื่องความศรัทธา
2. การวิจัยที่เน้นการศึกษาพัฒนาการเป็นการศึกษาวิเคราะห์ความแตกต่างของผลงาน ศิลปกรรมกับเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง ที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาใดระยะเวลาหนึ่ง โดยอาจศึกษา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงนั้นทั้งหมด หรือเพียงบางส่วนของเหตุการณ์นั้นก็ได้ เช่น การวิเคราะห์ ภาพผลงานจติ รกรรม “เกอรน์ กิ า้ ” ของศลิ ปนิ ปกิ สั โซ ทสี่ รา้ งสรรคข์ นึ้ ชว่ งสภาวะสงครามทมี่ กี ารสญู เสยี เป็นช่วงที่เกิดการพัฒนาการเปลี่ยนแปลงของผลงาน
3. การวจิ ยั ทเี่ นน้ การศกึ ษาความเปลย่ี นแปลง เปน็ การวเิ คราะหผ์ ลงานศลิ ปกรรม ดา้ นการ เปรียบเทียบลักษณะการเปลี่ยนแปลง เชื่อมโยงสัมพันธ์ของการรับอิทธิพลในเรื่องราวหรือเหตุการณ์ ในอดตี กบั เหตกุ ารณใ์ นปจั จบุ นั เชน่ จติ รกรรมฝาผนงั ในสมยั รชั กาลที่ 4 มอี ทิ ธพิ ลทหี่ ลากหลายอยา่ งไร
แนวทางการวิจัยเชิงประวัติศาสตร์
ลักษณะที่สาคัญของการวิจัยเชิงประวัติศาสตร์ พอจะสรุปได้ดังนี้
1. การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์พยายามอธิบายเหตุการณ์ในอดีต เพื่อประโยชน์ของการ อธิบายเหตุการณ์ในปัจจุบัน และอาจใช้การทานายเหตุการณ์ในอนาคตได้ เช่น การเชื่อมโยงทางศิลป วัฒนธรรม ความเป็นพหุวัฒนธรรม เป็นต้น
2. การวจิ ยั เชงิ ประวตั ศิ าสตรม์ กั ไมใ่ ชส้ ถติ ใิ นการวเิ คราะหข์ อ้ มลู แตใ่ ชว้ ธิ กี ารวจิ กั ษณ์ วจิ ารณ์ ข้อมูลเพื่อตีความหมายข้อมูลและสรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล
3. ลักษณะข้อมูลของการวิจัยเชิงประวัติศาสตร์จะเป็นหลักฐานต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต และข้อมูลส่วนใหญ่จะได้มาจากแหล่งทุติยภูมิมากกว่าแหล่งปฐมภูมิ
4. การวจิ ยั เชงิ ประวตั ศิ าสตรเ์ ปน็ การวจิ ยั ทใี่ ชเ้ อกสารและหอ้ งสมดุ เปน็ แหลง่ รวบรวมขอ้ มลู ประกอบกับสถานที่จริงในการอธิบายการวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล
5. การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์ผู้วิจัยไม่สามารถสร้างสถานการณ์เพื่อทดสอบผลการวิจัยได้
6. การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์ผู้วิจัยไม่มีส่วนร่วมในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพียงแต่นาเอา สิ่งที่เกิดข้ึนแล้วมาวิเคราะห์ร่วมกับร่องรอยที่คงอยู่ในปัจจุบัน ตีความอย่างมีเหตุผลตามหลักวิชาการ ตามวัตถุประสงค์
7. หลกั ฐานตา่ ง ๆ ทใี่ ชใ้ นการวจิ ยั เชงิ ประวตั ศิ าสตรน์ นั้ เกดิ ขนึ้ เองตามเหตกุ ารณท์ ไี่ ดบ้ นั ทกึ ไว้ในเอกสาร ตารา ที่มีความน่าสนใจ และเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของการเกิด คงอยู่ของ สถานที่นั้น ๆ

