Page 92 - การวิจัยทางศิลปะ
P. 92

                84
การวิจัยทางศิลปะ บทที่ 4
 แนวทางการวิเคราะห์ทางสุนทรียศาสตร์
การตัดสินทางสุนทรียศาสตร์ คือ การที่ใช้จิตแสดงปฏิกิริยาต่อสภาพการณ์สิ่งแวดล้อมหรือ การใช้จิตประเมินค่าวัตถุที่มีคุณค่าที่เร้าให้เกิดความรู้สึกภายในจิตใจ แม้ว่าความงามจะขึ้นอยู่กับจิต แต่ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเลือกตามใจชอบ หากแต่ต้องขึ้นอยู่กับคุณค่าที่มีอยู่ในวัตถุนั้น ๆ ด้วย
มมุ มองความคดิ ของแตล่ ะคนทมี่ คี วามแตกตา่ งหลากหลายออกไป ทงั้ นขี้ นึ้ อยกู่ บั บคุ คลนนั้ ๆ ว่าจะใช้อะไรเป็นหลักในการตัดสินสิ่งต่าง ๆ การตัดสินทางสุนทรียศาสตร์แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มแนวคิด
ดังนี้
1.  กลุ่มที่ใช้ตนเองเป็นตัวตัดสิน เรียกเกณฑ์ตัดสินนี้ว่า “อัตนัยนิยม” (Subjectivism)
กลุ่มที่เช่ือว่า ความรู้ ความจริงและความดีงามทั้งหลายล้วนเป็นสิ่งที่ไม่มีความจริงในตัวเอง หากแต่ เป็นเพียงสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเท่านั้น ดังนั้น กฎเกณฑ์ในทางความรู้ ความจริงและความดีงามนี้ จงึไมม่อียจู่รงิมนษุยเ์ทา่นนั้ทมี่อียจู่รงิและจะเปน็ตวัตดัสนิ พรอ้มทงั้เปน็ผกู้าหนดกฎเกณฑต์า่งๆขนึ้มา มนุษย์แต่ละคนต่างมีมาตรวัดความจริงต่างกันออกไป โดยไม่ขึ้นอยู่กับใครหรือสิ่งใด เกณฑ์การตัดสิน แบบนสี้ ามารถทา ใหเ้ ราเกดิ ความเชอื่ มนั่ ในตวั เองได้ แตห่ ากความรสู้ กึ เชอื่ มนั่ นี้ มมี ากจนเกนิ ไปอาจจะ สง่ ผลทา ใหเ้ ปน็ ผทู้ เี่ หน็ แกต่ วั เอาแตใ่ จตวั เอง การไมย่ อมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ นื่ จะสง่ ผลตอ่ ไปคอื ทาให้เรามีโลกทัศน์ที่แคบและเดียวดายในโลกกว้างนี้
2.  กลมุ่ ทเี่ ชอื่ วา่  มหี ลกั เกณฑท์ ตี่ ายตวั ทจ่ี ะใชต้ ดั สนิ ได้ เรยี กเกณฑต์ ดั สนิ นวี้ า่ “ปรนยั นยิ ม” (Objectivism) เป็นกลุ่มที่เชื่อว่า มีเกณฑ์มาตรฐานตายตัวแน่นอนในทางศิลปะ ที่สามารถนาไปตัดสิน ผลงานได้ในทุกสมัย เกณฑ์มาตรฐานนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงและไม่ขึ้นอยู่กับความรู้สึกใคร หรือศิลปิน คนใด กลุ่มนี้มีความเชื่ออีกว่า สุนทรียธาตุมีอยู่จริง แม้ว่าเราจะเข้าถึงไม่ได้ก็ตาม แต่ก็มีอยู่จริง
3.  กลุ่มที่เชื่อว่าหลักเกณฑ์ในการตัดสินสุนทรียศาสตร์นั้นเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะ แวดลอ้ ม เรยี กเกณฑต์ ดั สนิ นวี้ า่ “สมั พทั ธนยิ ม”(Relativism)เปน็ กลมุ่ ทมี่ แี นวคดิ คลา้ ยกบั กลมุ่ อตั นยั นยิ ม แต่ต่างกันตรงที่กลุ่มสัมพัทธนิยมนั้นมีความเชื่อว่า กฎเกณฑ์ตัดสินทางสุนทรียศาสตร์นั้นขึ้นอยู่กับ สภาวะวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น หรือขึ้นอยู่กับสภาพภูมิประเทศ ตลอดจนดินฟ้าอากาศของแต่ละ พื้นที่โดยไม่ขึ้นอยู่กับผู้วิเคราะห์ ผู้วิจารณ์ เพราะผู้วิจารณ์จะต้องวางตัวเป็นกลางและต้องสานึก อยู่ในใจเสมอว่าตนเองเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสังคม
การวเิ คราะหท์ างสนุ ทรยี ศาสตร์ ผวู้ จิ ยั สามารถนา ไปใชใ้ นการวเิ คราะหอ์ ธบิ ายในกระบวนการ วิจัยศิลปะ ด้วยการศึกษา วิเคราะห์ ตีความในการค้นคว้าอย่างมีระบบด้วยวิธีการวิจัย เพื่อให้ได้มาซึ่ง คาตอบ ข้อสรุปตัดสินความหมายของผลงานศิลปะ เกิดแนวคิดทฤษฎีทางศิลปะ ทฤษฎีความหมาย ท เี ่ ก ดิ จ า ก ก า ร พ สิ จู น ต์ า ม ห ล กั ก า ร ว ชิ า ก า ร เ พ อื ่ น า ช ดุ ค ว า ม ร เ้ ู พ อื ่ ป ร ะ ก อ บ ก บั ก ร ะ บ ว น ก า ร ว จิ ยั ส ร า้ ง ส ร ร ค ์ ศลิ ปะในการสรา้ งสรรค์ โดยใชก้ ารปฏบิ ตั เิ ปน็ เครอื่ งมอื นา ไปสคู่ วามรใู้ หมต่ ามแนวคดิ ทฤษฎคี วามงาม หรือทฤษฎีทางศิลปะ โดยเน้นทั้งกระบวนการศึกษาวิเคราะห์และกระบวนการสร้างสรรค์ เพื่อนาไปสู่ การสรุป วิธีคิด วิธีทา หรือแนวคิดใหม่ ทฤษฎีใหม่ ความหมายใหม่ ความงามใหม่
























































































   90   91   92   93   94