Page 7 - P_Sarn SKR12 Y4 V.4 July-Sep 62
P. 7
รู้ทัน ป้องกันโรค
กลุ่มเสี่ยง
กลุ่มวัยทำางาน โดยเฉพาะเกษตรกรที่ทำานา ทำาสวน (สวนผลไม้
สวนยางพารา สวนปาล์ม) หาปลาในแหล่งน้ำาธรรมชาติที่มีเชื้อปนเปื้อน
คนเลี้ยงสัตว์ ผู้ที่ประสบอุทกภัยหรืออาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำาท่วมขัง นักท่องเที่ยว
ที่เดินลุย/ว่ายน้ำาในจุดเสี่ยง คิดเป็น ร้อยละ 70 ของผู้ป่วยทั้งหมด
พฤติกรรมเสี่ยง
ไม่สวมรองเท้าบู๊ทเมื่อต้องลุยน้ำาหรือสัมผัสน้ำาเป็นเวลานาน
สัมผัสแหล่งน้ำาบ่อยครั้งหรือแช่น้ำาเป็นเวลาหลายชั่วโมง
มีบาดแผลที่ผิวหนังและอยู่ในพื้นที่น้ำาท่วมขัง
ไข้ฉี่หนูป้องกันได้
1. หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำาย่ำาโคลนที่ชื้นแฉะ หากจำาเป็นต้องเดิน
ลุยน้ำา ควรสวมรองเท้าบู๊ทหรือถุงพลาสติกสะอาดที่หาได้ในพื้นที่ ป้องกัน
ไม่ให้เท้าสัมผัสน้ำาหรือดินโดยตรง
2. หมั่นล้างมือด้วยน้ำาและสบู่บ่อยๆ และอาบน้ำาชำาระร่างกายทันที
หลังจากเสร็จจากการทำางานหรือลุยน้ำา
3. หลีกเลี่ยงการลงแช่น้ำาที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการติดเชื้อ รวมทั้งการใช้
แหล่งน้ำาร่วมกับสัตว์ เช่น โค กระบือ
4. ควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หากต้องเก็บไว้ขอให้ปิด
อาหารและน้ำาดื่มให้มิดชิดเพื่อไม่ให้หนูมาปัสสาวะรดได้
5. กำาจัดขยะให้ถูกต้องไม่ให้เป็นแหล่งอาหารของหนูได้
ประชาชน ยึดหลัก 4 ลด ปลอดภัยจากโรคไข้ฉี่หนู
1. ลดหนู โดยการกำาจัดหนู และทำาความสะอาดบ้านเรือน
2. ลดสัมผัส หลีกเลี่ยงการลงน้ำาที่เป็นจุดเสี่ยง หากจำาเป็นต้องลุยน้ำาย่ำาโคลนควรสวมรองเท้าบู๊ท
3. ลดการเสียชีวิต หากมีไข้ ปวดศีรษะรุนแรง ปวดกล้ามเนื้อโดยเฉพาะที่น่องหรือโคนขา ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
4. ลดการระบาด เมื่อพบผู้ป่วยรีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที เพื่อทำาการสอบสวนควบคุมโรคไม่ให้แพร่ระบาด
หากผู้ป่วยไปพบแพทย์เร็ว ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันเวลา จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อนและป้องกันการเสียชีวิตได้
การป้องกันการเสียชีวิต
ผู้ป่วยไปพบแพทย์โดยเร็ว หากพบอาการสงสัยโรคไข้ฉี่หนู (มีไข้เฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อโดยเฉพาะที่น่อง
หรือโคนขา หลังจากมีการลุยน้ำา/แช่น้ำา/ย่ำาโคลน)
แพทย์วินิจฉัยโรคได้ถูกต้อง รวดเร็ว ให้การรักษาผู้ป่วยอย่างถูกต้องเหมาะสม
7