Page 39 - GEH1101 สุนทรียภาพกับชีวิต บทที่ 2
P. 39
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสารและการเรียนรู้
ประมวลผลเพิ่มขึ้น เช่น การควบคุมและสั่งงานเครื่องคอมพิวเตอร์เมนเฟรม การแก้ปัญหาเฉพาะ
ด้านทางด้านอุตสาหกรรม เช่น การควบคุมเครื่องจักรกลต่าง ๆ เป็นต้น
การเขียนโปรแกรมด้วยภาษาระดับสูงจะต้องใช้ตัวแปลภาษา ที่เรียกว่า คอมไพเลอร์
(Compiler) เพื่อแปลภาษาระดับสูงโดยการตรวจสอบไวยากรณ์ของภาษาระดับสูงไปเป็น
ภาษาเครื่องเพื่อสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ท างานต่อไป โดยคอมไพเลอร์ของภาษาระดับสูงแต่ละ
ภาษาจะแปลเฉพาะภาษาของตนเอง และท างานได้เฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์ชนิดเดียวกันเท่านั้น
เช่น คอมไพเลอร์ของภาษา COBOL บนเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ จะแปลภาษาเฉพาะค าสั่งของ
ภาษา COBOL และจะท างานได้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เหมือนกันเท่านั้น ถ้าต้องการน าไปใช้กับ
เครื่องคอมพิวเตอร์แบบอื่น ๆ เช่น เมนเฟรม จะต้องใช้คอมไพเลอร์ของภาษา COBOL แบบใหม่
ตัวอย่างของภาษาคอมพิวเตอร์ระดับสูงได้แก่ ภาษา BASIC ภาษา COBOL ภาษา
FORTRAN และ ภาษา C ที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน สามารถเขียนโปรแกรมแก้ปัญหาเฉพาะ
ด้าน เช่น การควบคุมหุ่นยนต์ การสร้างภาพกราฟิก ได้เป็นอย่างดีเพราะมีความยืดหยุ่นและ
เหมาะกับการใช้งานทั่ว ๆ ไปได้
สรุปภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในยุคที่ 3 มีการเขียนโปรแกรมที่ง่ายกว่าในยุคที่ 2
สามารถท างานได้บนเครื่องคอมพิวเตอร์หลายระดับ (Machine Independent) โดยต้องใช้ควบคู่
กับตัวแปลภาษา (Compiler or Interpreter) ส าหรับเครื่องนั้น ๆ และมีความยืดหยุ่นในการ
แก้ปัญหาได้มากกว่าภาษาระดับต ่า
เรื่องที่ 2.3.4 ภาษาระดับสูงมาก (Very high-level Language)
หรือภาษายุคที่ 4 (Fourth-Generation Language) หรือ 4 GLs เป็นภาษาที่ใช้เขียน
โปรแกรมได้สั้นกว่าภาษายุคก่อนๆ โดยภาษายุคที่4 นี้มีคุณสมบัติที่จะแยกภาษายุคก่อนอย่าง
ชัดเจน กล่าวคือภาษาในยุคก่อนนั้นใช้หลักการของการเขียนโปรแกรม แบบโพรซีเยอร์
(Procedure Language) ซึ่ในขณะภาษายุคที่ 4 จะเป็นแบบ ไม่ใช่โพรซีเยอร์ (Non-Procedure
Language) ผู้เขียนโปรแกรมเพียงแต่ก าหนดว่าต้องการให้โปรแกรมท าอะไรบ้างก็สามารถเขียน
โปรแกรมได้ทันที โดยไม่ต้องทราบว่าท าได้อย่างไร ท าให้การเขียนโปรแกรมสามารถท าได้ง่ายและ
รวดเร็ว
83