Page 35 - aa
P. 35

22









         ผลของควำมไม่สมบูรณ์แห่งนิติกรรม


                นิติกรรมที่ท าขึ้นเป็นนิติกรรมฝ่ายเดียว นิติกรรมสองฝ่ายหรือนิติกรรมประเภท


        อื่นๆก็ตาม หากเข้าหลักเกณฑ์ถูกต้องใน 4 ประการคือ ความสามารถของนิติบุคคลในการ

        ท านิติกรรมแห่งนิติกรรม วัตถุประสงค์แห่งนิติกรรม และการแสดงเจตนาของผู้ท านิติ

        กรรม นิติกรรมนั้นย่อมสมบูรณ์ใช้บังคับได้ตามกฎหมาย แต่ถ้านิติกรรมนั้นไม่ถูกต้อง หรือ


        หรือบกพร่องอย่างใดอย่างหนึ่งใน 4 ประการดังกล่าวข้างต้น นิติกรรมนั้นไม่สมบูรณ์

        ความไม่สมบูรณ์จะมีผลในกฎหมาย 2 ประการคือ


        1.มีผลเป็นโมฆะ เรียกว่า โมฆะ หรือ โมฆะกรรม


        2.มีเป็นผลโมฆียะ เรียกว่า โมฆียะ หรือโมฆียกรรม


                1. โมฆะ มีความหมายโดยทั่วไปว่า เปล่า ว่าง ไม่มีประโยชน์ หรือไม่มีผล โดย

        ในทางกฎหมายนั้นหมายความว่า เสียเปล่า หรือไม่มีผลบังคับหรือผูกพันตามกฎหมาย

        นิติกรรม ที่ตกเป็นโมฆะนั้น เรียก "โมฆกรรม" โดยเป็นนิติกรรมที่เสียเปล่า ใช้บังคับไม่ได้

        และจะท าให้กลับคืนดีอีกก็ไม่ได้ เปรียบดั่งคนที่ตายไปแล้ว โดยนิติกรรมจะตกเป็นโมฆะ


        เมื่อมีความวิปลาสอย่างร้ายแรง จนกฎหมายไม่อาจยอมให้มีผลตามที่คู่กรณีในนิติกรรมนั้น

        ประสงค์ไว้ได้ และในประเทศไทย ผู้มีส่วนได้เสียคนหนึ่งคนใดจะยกความเสียเปล่าแห่ง

        โมฆกรรมขึ้นกล่าวอ้างเพื่อเป็นประโยชน์แก่ตนก็ได้ทุกเมื่อ ไม่มีอายุความก ากับไว้


                2.โมฆียะ หมายถึง นิติกรรมซึ่งอาจบอกล้าง เพิกถอน หรือให้สัตยาบันได้, ถ้าบอก


        ล้างก็เป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรก ถ้าให้สัตยาบันก็มีผลสมบูรณ์มาแต่เริ่มแรก ทั้งนี้ กฎหมาย

        เขียนเป็น "โมฆียะกรรม" ตามรูปแบบการเขียนโบราณสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งยังไม่มีการบังคับ

        ให้การเขียนสะกดค าต้องเป็นไปตามพจนานุกรมของทางราชการ[1]
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40