Page 252 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 252

เพราะฉะนั้น  เราก็กลับมารักพี่รักน้อง  รักสามีรักภรรยา  รักพ่อรักแม่  ก็ต้องช่วยกันดูแล

               ครอบครัวของเราให้ดีก่อนที่มันจะไม่ได้ดูแลกัน  คนใดคนหนึ่งล้มป่วยหรือว่าตายไปนี่เราไม่ได้ไปดู

               ใจกันเลยโน้นอยู่โรงพยาบาลสนาม  ไปเยี่ยมก็ไม่ได้  ไปเผาก็ไม่ได้  ไปฝังก็ไม่ได้  เท่ากับว่าจากกัน

               เหมือนอยู่คนละโลกเลย เพราะฉะนั้น ดูแลกันก่อน รักกันก่อน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน คราวนี้แหละ

               จะเป็นการเห็นใจซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้น การอยู่ครองเรือนก็กลับมารักกันนะช่วยเหลือเกื้อกูล

               กัน อันนี้มันจะเป็นการสร้างวัคซีนในใจของแต่ละท่านสุดท้ายก็เนกขัมมา คือ การออกจากบ้าน แต่

               ละคนมันก็มีหน้าที่การงาน  มีธุระบ้างก็ต้องออกจากบ้าน  อย่าลืมใส่แมส  เดี๋ยวนี้เขารณรงค์ให้ฉีด

                                                              ้
                                                                                             ่
               วัคซีนป้องกันก็ต้องไปฉีด  อันนี้แหละจะเป็นการปองกันไม่ให้โรคภัยไข้เจ็บเข้ามาสู่รางกายของเรา
               ถึงเข้ามามันก็มีภูมิคุ้มกันอยู่  ฉะนั้น  ทางพระสงฆ์ทั้งหลายก็รู้ว่าญาติโยมมีภาระหน้าที่  มีความ

                                                                                      ั
               รับผิดชอบครอบครัว  ก็เลยเอาบ้านของโยมนั่นแหละเป็นวัด  ต่างคนต่างหาวคซีน  วัคซีนก็คือสวด
               มนต์  นั่งสมาธิ  ฟังพระธรรมเทศนา  อยู่ที่บ้าน  อยู่ที่ห้องเราก็ได้  ห้องครัวก็ได้  ห้องรับแขกก็ได้  นี่

               แหละส่งวัคซีนไปถึงบ้านของท่านเลย  ท่านจะได้สวดมนต์  ท่านจะได้สร้างวัคซีนใจ  ใจมันจะได้

               เข้มแข็ง ใจมันจะได้อบอุ่น ใจมันจะได้ซาบซึ้ง เพราะฉะนั้น ทางวัดนี่ก็เห็นใจท่านทั้งหลาย เมื่อท่าน

               ทั้งหลายได้เวลาแล้วก็อย่าลืมสวดมนต์ นั่งสมาธิ

                     พระพุทธเจ้าจะพูดถึงเรื่องทานศีล สีละคาถา ปรากฏว่า “จุลกาล กับ มหากาล” ที่ไปฟังนี่ โอ้

               ไม่ไหวเรานี่อายุมากแล้ว ไปขอบวชกับพระพุทธเจ้าดีกว่า พอไปขอบวช พระพุทธเจ้าก็รู้วาท่านมีพี่
                                                                                                 ่
               มีน้อง มีสามีภรรยา มีพ่อมีแม่ไหม ผมไม่มีครับ พ่อแม่ของผมเสียไปแล้ว แล้วมีใครบ้างที่ต้องบอก

               ลา มีใครบ้าง มีน้องชาย ถ้ายังงั้นต้องไปบอกลาน้องชายก่อน ท่านก็ไปลาน้องชายชื่อ จุลกาล พี่จะ

               ขอลาน้องไปบวชแล้ว พี่อย่าไปเลยให้แก่ก่อนเราอยู่ที่บ้านเราก็ทำบุญได้ สวดมนต์ได้ นั่งสมาธิได้ ไม่

               เหมือนกันน้องเอ๋ย โดยเฉพาะไปวัดเทพก็สะดวกสบาย สถานที่สัปปายะมาก พี่ไปเห็นแล้วมันสบาย

               จริง ๆ ในที่นี้หมายถึงวัดพระเชตวัน ที่นี้น้องก็ไม่ยอมให้พี่ไป ในที่สุดพี่ตัดสินใจว่าจะต้องบวชแล้ว ก็

                                          ี่
               ลุกขึ้น น้องก็คว้าขากอดขาพ อย่าไปเลย ๆ พี่ก็รู้วา น้องอย่าต้านทานพี่เลย ขอให้พี่ไปเถอะ น้องก็
                                                             ่
               กอดขาร้องไห้อยู่นั่นแหละ  พี่ก็เลยฝืนสลัดขาออกจากมือของน้องชาย  เดินทางไปสู่วัดเชตะวันเลย

               พระพุทธเจ้าก็ให้พระบวชให้  พอบวชแล้วก็ไปเรียนกรรมฐาน  ที่นี่ถามว่าในพระพุทธศาสนานี้มี

               อะไรบ้าง ท่านบอกว่า “คันธะธุระ” ก็ต้องศึกษาพระไตรปิฎกนะ เรียนให้จบแล้วก็ “วิปัสสนาธุระ”

               เรียนสมาธิสมถะกรรมฐานเป็นยังไง  พระพุทธเจ้าก็อธิบายให้เข้าใจ  ก็อยู่ได้  ๕  พรรษา  ท่านก็ไป

               ชักชวนพระสงฆ์ด้วยกัน ๖๐ รูป เดินทางไปต่างจังหวัด เพื่อที่จะไปปฏิบัติธรรม เมื่อตกลงกติกาว่า

               เราได้ลาพระพุทธเจ้ามาแล้ว พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ เราต้องปฏิบัติเข้ม ๆ เลย



                                                          ๒๕๒
   247   248   249   250   251   252   253   254   255   256   257