Page 19 - งารวารสาร 5/6
P. 19
เพชรมีองค์ประกอบทางเคมีเป็นคาร์บอน (Carbon) และตกผลึกในทรงลูกบาศก์
(Cubic) ลักษณะของผลึกเพชรมักอยู่ในรูปของออกตะฮีดรอน (Octahedron) ที่มีรูปร่าง
คล้ายปีรามิด 2 ชิ้นมาประกบกันเพชรจะมีส่วนประกอบของคาร์บอนอยู่ถึง 99.95% ส่วน
ที่เหลือ 0.05% จะเป็นแร่ธาตุอื่น ๆ ปะปนอยู่ในเพชร ที่เราเรียกว่า Impurities ซึ่งเป็น
องค์ประกอบที่มีผลต่อสีและรูปร่างของเพชร
รูปดิวบิก (Cubic) รูปออกตาซิตรอน (Octahed ron)
ข้อเท็จจริงที่ว่า เพชรสามารถผ่านพ้นการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาอย่างรุนแรง
มาได้ เป็นระยะเวลายาวนาน ในขณะที่วัตถุอื่น ๆ ที่อยู่รอบข้าง เช่น หินแกรนิตซึ่งมีผิว
ขรุขระ
ผุกร่อนจนกลายเป็นฝุ่นไปหมดเป็นเครื่องพิสูจน์ความแข็งแกร่งของเพชรได้เป็นอย่างดี
ตามตารางการวัดความแข็งของโมห์ (Moh's Hardness Scale) ระดับ (level) 1 ถึง 10
เพชรมีความแข็งอยู่ที่ระดับ 10 (ระดับ 10 มีค่าความแข็งมากที่สุด ขณะที่ระดับ 1 มีค่า
ความแข็งน้อยที่สุด) ในขณะที่หินมีค่าเช่น ทับทิมและไพลิน (รูปหนึ่งของคอรันดัม) มีความ
แข็งอยู่ที่ระดับ 9 แต่สิ่งนี้มิใช่เครื่องแสดงถึงความแข็งแกร่ง ของเพชรได้อย่างเพียงพอ
การวัดในเชิงวิยาศาสตร์ที่ละเอียดยิ่งขึ้นไปอีกแสดงให้เห็นว่า เพชรแข็งกว่าทับทิมและไพลิน
ถึง 140 เท่า แม้ว่าทับทิมและไพลินจะมีความแข็งแกร่งรองลงมา จากเพชรเป็นอันดับแรกก็
ตาม เพชรสามารถ
ขีดวัตถุทุกชนิดที่มนุษย์รู้จักให้เป็นรอยได้ แต่มีวัตถุเพียงประเภทเดียวเท่านั้นที่สามารถขูด
ขีดเพชรให้เป็นเป็นรอยได้ ก็คือเพชรนั่นเอง
นายอิทธิพงษ์ กอกลาง เลขที่ 28
อ้างอิง : http://www.patchra.net/minerals/gems/diamond04.php