Page 17 - ชดท 4_Neat

12

7. สมมติฐาน

7.1 พื้นที่ที่มีการใช้ประโยชน์ที่ดินต่างกัน ท าให้น ้าฝนมีค่าความเป็นกรดแตกต่างกัน เพราะแต่ละ
พื้นที่มีความแตกต่างด้านปริมาณการผลิตแก๊สออกไซด์ของซัลเฟอร์ และแก๊สออกไซด์ของไนโตรเจน ซึ่ง

เมื่อท าปฏิกิริยากับน ้าจะเกิดกรดที่มีสภาพ pH ต่างกัน

7.2 ในช่วงแรกของฝนตกจะมีค่า pH ต ่ากว่าช่วงอื่นๆ ในฝนตก 1 ครั้ง เพราะในช่วงแรกปริมาณ
แก๊สออกไซด์ของซัลเฟอร์ และแก๊สออกไซด์ของไนโตรเจนมีมากกว่าช่วงหลังในฝนตก 1 ครั้ง เนื่องจากยัง

ไม่มีการชะล้างและละลายไปกับน ้าฝน

8. ขอบเขตการวิจัย
8.1 ขอบเขตพื้นที่ที่ศึกษา

ท าการศึกษา 5 พื้นที่ ซึ่งเป็นตัวแทนของพื้นที่ที่มีการใช้ประโยชน์ที่ดินต่างกัน คือ พื้นที่

ย่านการค้าที่มีการจราจรหนาแน่น โรงเรียน ที่พักอาศัย โรงงานอุตสาหกรรม ป่าชายเลน
8.2 การตรวจวัด

การตรวจวัดค่า pH ของน ้าฝน โดยใช้อุปกรณ์วัดความเป็น กรด-ด่าง แบบดิจิตอล ตรวจวัด

ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2550 โดยท าการเก็บตัวอย่างน ้าฝนทุกวัน เว้นวันที่ไม่มีฝนตก

9. การวางแผนงานวิจัย

9.1 สถานที่ท างานวิจัย เลือกพื้นที่ที่เป็นตัวแทนกิจกรรม โดยดูความสะดวกในการเก็บตัวอย่างและ
พิจารณาว่าในรัศมีประมาณ 1 กิโลเมตร จากพื้นที่ที่ติดตั้งเครื่องมือมีการใช้ประโยชน์ที่ดินในรูปแบบใดมาก

ที่สุด ซึ่งได้ตัวแทนพื้นที่ดังนี้

- บ้านของนักเรียนที่อยู่บริเวณเขตบางรัก เขตบางกอกใหญ่ เขตท่าพระ เขตเยาวราช เป็น
พื้นที่ย่านการค้าที่มีการจราจรหนาแน่น

- โรงเรียนรุ่งอรุณ เป็นตัวแทนพื้นที่โรงเรียน ซึ่งมีการใช้ประโยชน์ที่ดินโดยมีกิจกรรมหลัก

คือ มีรถเข้าออกมากในช่วงเช้าและเย็น
- บ้านของนักเรียนที่อยู่บริเวณเขตทวีวัฒนา ซอยตากสิน 4 เขตบางยี่เรือ เป็นพื้นที่ที่อยู่

อาศัย หมู่บ้าน

- บ้านของนักเรียนที่อยู่บริเวณซอยเอกมัย 66 เขตบางบอน เขตหนองแขม เป็นพื้นที่ที่มี
ตัวแทนโรงงานอุตสาหกรรม

- ป่าชายเลน บริเวณชายทะเลบางขุนเทียน

9.2 ระยะเวลาของการวิจัย เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2550