Page 7 - การวางแผนงานวิจัย โครงร่างงานวิจัย
P. 7
หรือสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ในระดับกว้าง จึงควรครอบคลุมงานวิจัยที่จะท าทั้งหมด
- วัตถุประสงค์เฉพาะ (specific objective) จะพรรณนาถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริง
ในงานวิจัยนี้ โดยอธิบายรายละเอียดว่า จะท าอะไร โดยใคร ท ามากน้อยเพียงใด ที่ไหน เมื่อไร
และเพื่ออะไร โดยการเรียงหัวข้อ ควรเรียงตามล าดับความส าคัญ ก่อน หลัง
หลักการเขียนวัตถุประสงค์ที่ดี: สอดคล้องกับชื่อเรื่อง มีความชัดเจนว่าจะศึกษาอะไรบ้าง
ั
ครอบคลุมทุกปญหาการวิจัย น าไปสู่การออกแบบการวิจัยได้ ไม่น าประโยชน์ที่คาดว่าจะได้
รับมาเขียน
ั
การตั้งสมมติฐาน เป็นการคาดคะเน (predict) หรือการทายค าตอบของปญหา อย่างมีเหตุผล
จึงมักเขียนในลักษณะการแสดงความสัมพันธ์ ระหว่างตัวแปรอิสระ (independent variables)
และตัวแปรตาม (dependent variable)งานวิจัยบางชนิด ไม่จ าเป็นต้องมีสมมติฐาน เช่น การ
วิจัยขั้นส ารวจ (exploratory or formulative research) เป็นต้น
วัตถุประสงค์ของงานวิจัยและสมมุติฐานจะช่วย
แสดงให้ผู้อ่านหรือผู้ทบทวนงานวิจัยมีภาพชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้วิจัยอยากท าให้
ส าเร็จ
แสดงให้ผู้ทบทวนงานวิจัยเห็นว่าผู้วิจัยมีภาพชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่อยากท าให้ส าเร็จ
เป็นการสร้างฐานให้กับส่วนที่เหลือทั้งหมดของโครงร่างงานวิจัย
จะถูกน าไปใช้ในการประเมินความเพียงพอและความเหมาะสมของระเบียบวิธีวิจัย
กุญแจสู่ความส าเร็จ
มีสมมุติฐานหลักหนึ่งหรือสองสมมุติฐานที่ โดยเน้นที่ค าถามส าคัญ
ชัดเจนและสอดคล้อง
มีการระบุแนวคิดหลัก/โครงสร้าง
น าเสนอตัวแปรต้นและตัวแปรตาม(ถ้ามี)
สามารถวัดได้
สมมุติฐานมีความชัดเจนในการท านายความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร
มีความเหมาะสมหรือมีความใหม่
6) ระเบียบวิธีวิจัย (Research Methods)
- รูปแบบการวิจัย (Research Design) รูปแบบการวิจัย เปรียบเสมือน
โครงสร้างของบ้าน เป็นแผนของการวิจัยทั้งหมดที่ให้ได้มาซึ่งค าตอบของงานวิจัยหรือเพื่อ
ทดสอบสมมุติฐาน ส่วนระเบียบวิธีวิจัย (research methodology) เปรียบเสมือนการตกแต่ง
ภายใน ซึ่งจ าเป็นต้องสอดคล้องกับโครงสร้างของบ้าน (design)
การเลือกรูปแบบงานวิจัยขึ้นอยู่กับ
7