Page 21 - ชุดการสอนเฟย123
P. 21

3) ระบบอุปถัมภ์ในองค์กรต่างๆ   ไม่ว่าจะเป็นของรัฐหรือของเอก ชนก็ตามมักจะถูกมองในแง่ลบอยู่

               ตลอดเวลาว่า  ระบบอุปถัมภ์ท าให้ระบบบริหารขาดประสิทธิภาพ ซึ่งก็มีส่วนจริงอยู่บ้าง  การใช้ระบบอุปถัมภ์

               มากเกินไปก็อาจจะท าให้เกิดความระส่ าระสาย เกิดการเสียขวัญก าลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานอยู่

               นอกวงอุปถัมภ์ได้เช่นกัน

                       4) ระบบอุปถัมภ์ระหว่างอาชีพ  เป็นระบบอุปถัมภ์ที่น่าจะมีลักษณะคงทนน้อยกว่าแบบอื่นๆ  ที่กล่าว

               มาแล้ว  แต่ลักษณะอื่นๆ  ของระบบอุปถัมภ์ก็ยังมีครบ  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปฏิบัติต่างตอบแทน  ความ

               สูงศักดิ์ของผู้อุปถัมภ์และความจงรักภักดีของผู้รับอุปถัมภ์ ส าหรับสังคมไทย  ระบบอุปถัมภ์ระหว่างอาชีพหรือ

               ข้ามอาชีพนี้



               อาจจ าแนกได้เป็น   2   กลุ่มใหญ่ๆ

                       กลุ่มข้าราชการ  พ่อค้า  กับ กลุ่มนักการเมือง  ชาวไร่  ชาวนา  การอุปถัมภ์ระหว่างข้าราชการและ

               พ่อค้าเป็นไปในรูปของการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางด้านวัตถุระหว่างกันมากกว่า   คือว่าฝ่ายราชการจะ

               อ านวยสิทธิประโยชน์ให้แก่พ่อค้า   นักธุรกิจ   ซึ่งจะเป็นฝ่ายทดแทนบุญคุณหรือตอบแทนด้วยการให้เงินทอง

               หรือทรัพย์สินมีค่าอย่างอื่น

                       กล่าวโดยสรุป   ระบบอุปถัมภ์เป็นระบบหนึ่งที่มีความเป็นมาและพัฒนาการมาอย่างยาวนานร่วมกับ

               สังคมไทยมาตั้งแต่เริ่มแรก  โดยเป็นระบบความสัมพันธ์ของคน   2  ฝ่าย  ซึ่งมีความไม่เท่าเทียมกัน  ฝ่ายที่อยู่

               เหนือกว่า  คือ  มีทรัพยากรมากกว่า  หรือสูงศักดิ์  มีอ านาจมากกว่า  จะอยู่ในฐานะอุปถัมภ์  ฝ่ายที่อยู่ต่ ากว่า

               คือ   ผู้ที่มีทรัพยากรน้อยกว่า   หรือมีอ านาจด้อยกว่าจะ เป็นผู้ใต้อุปถัมภ์   ต่างฝ่ายต่างมีการแสวงหา

               แลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันในลักษณะต่างตอบแทน   ซึ่งขึ้นอยู่กับความสมัครใจของคนทั้ง  2   ความสัมพันธ์

               ลักษณะนี้ด ารงอยู่ได้ไม่ใช่เพียงเพราะต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์เท่านั้น   แต่ต้องมีอุดมการณ์ที่ช่วยจรรโลง

               ความสัมพันธ์อย่างนี้ เอาไว้    ระบบอุปถัมภ์ในสังคมไทยเริ่มมีขึ้นในระบบสังคม   และแพร่กระจายไปสู่ระบบ

               การเมือง  ผ่านทางชนชั้นน าทางการเมืองและชนชั้นน าทางเศรษฐกิจ  โดยเป็นการอุปถัมภ์ระหว่างชนชั้นน า

               ทางการเมืองด้วยกัน   หรือระหว่างชนชั้นน าทางเศรษฐกิจด้วยกัน   แต่ใน ระยะหลังนี้จะเห็นได้ว่า   มีการ

               พัฒนาของระบบอุปถัมภ์   โดยเป็นการอุปถัมภ์ระหว่างกลุ่มชนชั้นน าทางการเมืองกับชนชั้นน าทางเศรษฐกิจ

               ด้วย

                       การศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับระบบอุปถัมภ์นี้ถือเป็นแนวคิดส าคัญที่จะช่วยให้เข้าใจถึงความเป็นมา

               พัฒนาการ รวมไปถึงบทบาทของกลุ่มธุรกิจการเมืองในประเทศไทย   และที่ส าคัญคือกระบวนการประสาน

               ประโยชน์ทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจของกลุ่มธุรกิจการเมืองนั่นเอง
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26