Page 128 - สรป 4Y กมธ กิจการเด็กฯ ชุด 25
P. 128
หน้า ๑๑๖ ส่วนที่ ๓
๒.๑๒ หมวด ๙ การอุทธรณ์
๑) ก าหนดสิทธิอุทธรณ์ของผู้ขออนุญาต ผู้ขอต่ออายุใบอนุญาต ผู้ขอรับโอน
ใบอนุญาต ผู้ขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการอิสระ หรือผู้ขอต่ออายุการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการอิสระ
ในกรณีที่นายทะเบียนไม่ออกใบอนุญาต ไม่ให้ต่ออายุใบอนุญาต ไม่ให้โอนใบอนุญาต หรือศูนย์คุ้มครองผู้ให้
บริการไม่รับขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการอิสระ หรือไม่ต่ออายุการขึ้นทะเบียน
ั
๒) ก าหนดสิทธิอุทธรณ์ของผู้รับอนุญาต หรือผู้ให้บริการอิสระ ในกรณีที่ถูกพกใช้
ใบอนุญาต ถูกเพิกถอนใบอนุญาต หรือถูกลบชื่อออกจากทะเบียน
๓) ก าหนดระยะเวลาในการพิจารณาอุทธรณ์
๒.๑๓ หมวด ๑๐ บทก าหนดโทษ
ก าหนดโทษส าหรับการใช้เป็นมาตรการลงโทษผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม
พระราชบัญญัตินี้ โดยก าหนดอัตราโทษให้สอดคล้องกับมาตรา ๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ึ
ที่บัญญัติให้รัฐพงก าหนดโทษอาญาเฉพาะความผิดร้ายแรง จึงตัดโทษจ าคุกในบทบัญญัติที่ไม่เป็นความผิด
ื่
ร้ายแรงออก และก าหนดบทสันนิษฐานความรับผิดทางอาญาของผู้บริหารนิติบุคคล เพอให้สอดคล้องกับ
ค าวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งก าหนดให้นายทะเบียนหรือผู้ซึ่งนายทะเบียนมอบหมายมีอ านาจ
เปรียบเทียบได้เฉพาะความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียวหรือมีโทษจ าคุกไม่เกินหนึ่งปี
๒.๑๔ อัตราค่าธรรมเนียม
ก าหนดอัตราค่าธรรมเนียมส าหรับการขอใบอนุญาตประกอบกิจการให้บริการทาง
เพศ ใบอนุญาตประกอบกิจการให้บริการทางเพศผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การต่ออายุใบอนุญาต และใบแทน
ใบอนุญาต เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน
ิ
อย่างไรก็ตาม ผลการพจารณาศึกษาและจัดท าร่างกฎหมายดังกล่าวนี้ คณะกรรมาธิการมีข้อสังเกต
ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
ั
๑. กระทรวงการพฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ควรเร่งด าเนินการรวบรวม ศึกษา
และแก้ไขปัญหาที่เป็นผลกระทบจากการบังคับใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี
พ.ศ. ๒๕๓๙ ซึ่งได้ใช้บังคับมาเป็นระยะเวลานานจึงมีบทบัญญัติที่ไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน
อีกทั้งกฎหมายดังกล่าวไม่ได้ท าให้การค้าประเวณีลดลง แต่กลับท าให้ผู้ค้าประเวณีต้องถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน
จากการบังคับใช้กฎหมาย การถูกเลือกปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ และการถูกตีตราจากคนในสังคมว่าเป็น
อาชญากร ดังนั้น กระทรวงการพฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงควรน ารายงานผลการศึกษาฯ ฉบับนี้
ั
ไปเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลหรือแนวทางในการศึกษาผลกระทบของการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวด้วย
ั
๒. กระทรวงการพฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในฐานะ
ผู้บังคับใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. ๒๕๓๙ ในขณะที่ยังไม่มีการแก้ไข
ปรับปรุงกฎหมายดังกล่าว ควรต้องมีการขับเคลื่อนการด าเนินงานในการดูแล ป้องกัน และแก้ไขปัญหาการ
ค้าประเวณีที่มีอยู่ โดยปรับทัศนคติในการด าเนินงานให้อยู่บนพื้นฐานแนวคิดของการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
ตลอดจนการใช้งบประมาณที่สอดคล้องกับการจัดสรรงบประมาณที่ค านึงถึงเพศภาวะ (Gender Responsive
Budgeting: GRB) เพอรองรับการขับเคลื่อนการด าเนินงานในเรื่องดังกล่าว พร้อมทั้งก าหนดนโยบาย
ื่
ด้านการคุ้มครองสิทธิ การพัฒนาอาชีพ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เป็นการป้องกันปัญหาการค้าประเวณี
โดยไม่จ าเป็นต้องรอให้มีการแก้ไขกฎหมาย