Page 15 - สรป 4Y กมธ กิจการเด็กฯ ชุด 25
P. 15

ส่วนที่ ๑                                                                              หน้า ๓



               ที่เป็นผู้ด ำรงต ำแหน่งในองค์กรอิสระในส่วนที่เกี่ยวกับกำรปฏิบัติตำมหน้ำที่และอ ำนำจโดยตรงในแต่ละ

               องค์กรตำมบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญหรือตำมพระรำชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญได้
                           กำรเรียกเอกสำรที่อยู่ในควำมครอบครองของบุคคลหรือเรียกบุคคลมำให้ข้อมูลข้อเท็จจริง

               ดังกล่ำวข้ำงต้นนั้น หำกเป็นกรณีที่เอกสำรหรือบุคคลนั้นอยู่ในก ำกับหน่วยงำนของรัฐ ก็จะเป็นหน้ำที่ของ
               รัฐมนตรีที่รับผิดชอบและมีส่วนเกี่ยวข้องที่จะต้องสั่งกำรให้เจ้ำหน้ำที่ของรัฐในสังกัดหรือในก ำกับ ให้ข้อเท็จจริง
               ส่งเอกสำรหรือแสดงควำมเห็นตำมที่คณะกรรมำธิกำรเรียก

                           สภำผู้แทนรำษฎรและวุฒิสภำโดยหลักแล้วจะต้องเปิดเผยบันทึกกำรประชุม รำยงำนกำร
               ด ำเนินกำร รำยงำนกำรสอบหำข้อเท็จจริง หรือรำยงำนกำรศึกษำ ของคณะกรรมำธิกำรให้ประชำชนทรำบ

               แต่มีข้อยกเว้นอยู่ว่ำสภำผู้แทนรำษฎรหรือวุฒิสภำสำมำรถมีมติไม่ให้มีกำรเปิดเผยเอกสำรข้ำงต้นได้ในบำงกรณี

               เอกสิทธิ์ของคณะกรรมาธิการ

                           มาตรา ๑๒๙ วรรคเจ็ด ได้ก ำหนดว่ำ เอกสิทธิ์ที่บัญญัติไว้ในมำตรำ ๑๒๔ ให้คุ้มครองถึงบุคคล
               ผู้กระท ำหน้ำที่และผู้ปฏิบัติตำมค ำเรียกตำมมำตรำนี้ด้วย

                           ข้อสรุป บุคคลผู้กระท ำหน้ำที่และบุคคลผู้ปฏิบัติตำมค ำเรียกซึ่งได้ด ำเนินกำรอย่ำงถูกต้อง
               และอยู่ในขอบเขตของหน้ำที่และอ ำนำจตำมที่ได้กล่ำวข้ำงต้นจะได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครอง กล่ำวคือ กำรกล่ำวถ้อยค ำ
               ในกำรแถลงให้ข้อมูลข้อเท็จจริงรวมทั้งกำรแสดงควำมคิดเห็นหรือกำรออกเสียงลงคะแนนในกำรประชุม

               ของคณะกรรมำธิกำร จะได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครอง ผู้ใดจะน ำถ้อยค ำหรือข้อควำมดังกล่ำวไปฟ้องร้องด ำเนินคดี
               ไม่ได้โดยเด็ดขำด

                           แต่มีข้อยกเว้นว่ำ หำกกำรประชุมนั้นมีกำรถ่ำยทอดทำงวิทยุกระจำยเสียงหรือวิทยุโทรทัศน์
               หรือทำงอื่นใด และถ้อยค ำดังกล่ำวนั้นไปปรำกฏนอกบริเวณรัฐสภำและถ้อยค ำนั้นเป็นควำมผิดทำงอำญำ
               หรือละเมิดสิทธิทำงแพ่งต่อบุคคลอื่น ซึ่งบุคคลอื่นที่ว่ำนั้นต้องไม่ใช่รัฐมนตรีหรือสมำชิกของสภำนั้น ก็จะถูก

               ฟ้องร้องด ำเนินคดีโดยบุคคลนั้นได้


               สัดส่วนของคณะกรรมาธิการสามัญ
                           มาตรา ๑๒๙ วรรคแปด ได้ก ำหนดว่ำ กรรมำธิกำรสำมัญซึ่งตั้งจำกผู้ซึ่งเป็นสมำชิกสภำผู้แทน

               รำษฎรทั้งหมด ต้องมีจ ำนวนตำมหรือใกล้เคียงกับอัตรำส่วนของจ ำนวนสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎรของแต่ละ
               พรรคกำรเมืองที่มีอยู่ในสภำผู้แทนรำษฎร
                           มาตรา ๑๒๙ วรรคท้าย ได้ก ำหนดว่ำ ในระหว่ำงที่ยังไม่มีข้อบังคับกำรประชุมสภำผู้แทนรำษฎร

               ตำมมำตรำ ๑๒๘ ให้ประธำนสภำผู้แทนรำษฎรเป็นผู้ก ำหนดอัตรำส่วนตำมวรรคแปด
                           ข้อสรุป กรณีกรรมำธิกำรสำมัญของสภำผู้แทนรำษฎรซึ่งต้องตั้งจำกผู้ซึ่งเป็นสมำชิก

               สภำผู้แทนรำษฎรจะต้องมีกำรก ำหนดจ ำนวนสมำชิกให้ใกล้เคียงและสอดคล้องกับอัตรำส่วนของจ ำนวน
               สมำชิกสภำผู้แทนรำษฎรของแต่ละพรรคกำรเมืองที่มีอยู่ในสภำผู้แทนรำษฎร (โดยหลักแล้วจะก ำหนด
               ในข้อบังคับกำรประชุมสภำผู้แทนรำษฎร) แต่ในระหว่ำงที่ยังไม่มีข้อบังคับกำรประชุมสภำผู้แทนรำษฎร

               แต่หำกจะมีกำรก ำหนดสัดส่วนของกรรมำธิกำรสำมัญ ประธำนสภำผู้แทนรำษฎรจะเป็นผู้ก ำหนดอัตรำส่วน
               ดังกล่ำว


                                                  *************************
   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20