Page 164 - การเป็นผู้ประกอบการ_Neat
P. 164
158
กําหนดให้การประกอบธุรกิจแฟกเตอริงเป็นกิจการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
เนื่องจาก มีลักษณะคล้ายคลึงกับการให้กู้ยืมเงินที่เป็นการประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์
“แพ็กเตอริง” หมายถึง ธุรกิจที่ผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการตกลงจะโอนทรัพย์สินที่จะได้รับจากการ ชําระหนี้
เนื่องจากการขายสินค้าหรือการให้บริการระหว่างตนกับลูกหนี้ของตนให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจ แพ็กเตอริง โดย
ผู้ประกอบธุรกิจแพ็กเตอริงตกลงจะให้สินเชื่อซึ่งรวมถึงการให้กู้ยืมและการทดรองจ่ายแก่ ผู้ขายสินค้าหรือผู้
ให้บริการและรับที่จะดําเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้
1. จัดให้มีบัญชีทรัพย์สินที่จะได้รับการชําระหนี้
2. เรียกเก็บทรัพย์สินที่จะได้รับจากการชําระหนี้
3. รับผิดชอบในหนี้ที่ลูกหนี้ของผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการผิดนัด การยื่นแบบแสดง
รายการภาษีธุรกิจเฉพาะ 1 ผู้มีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะ ได้แก่
1.1 บุคคลซึ่งประกอบกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยไม่ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจ
เฉพาะ
1.2 ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการประกอบกิจการในราชอาณาจักรของผู้ประกอบกิจการอยู่
นอกราชอาณาจักร
1.3 ลูกจ้าง ตัวแทน หรือผู้ทําการแทนซึ่งมีอํานาจในการจัดการแทนโดยตรงหรือโดยปริยาย
ที่อยู่ในราชอาณาจักรของผู้ประกอบกิจการที่อยู่นอกราชอาณาจักร
2 แบบแสดงรายการที่ใช้ แบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะ ที่อธิบดีกรมสรรพากร
กําหนดให้ ใช้ในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะได้แก่ แบบ ภ.ธ.40
3. หน้าที่ในการจัดทํารายงาน ผู้ประกอบกิจการที่มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ มีหน้าที่
จัดทํารายงาน แสดงรายรับก่อนหักรายจ่ายที่ต้องเสียภาษีและรายรับที่ไม่ต้องรวมคํานวณเพื่อเสียภาษี
รายงานดังกล่าว ให้จัดทําตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกําหนด โดยให้จัดทําเป็นรายสถานประกอบการ
ทั้งนี้การลงรายการ ในรายงานให้ลงภายใน 3 วัน ทําการนับแต่วันที่มีรายรับเว้นแต่อธิบดีกรมสรรพากร
เห็นสมควร
4. หน้าที่ในการเก็บรักษารายงานและเอกสารหลักฐานผู้ประกอบกิจการที่มีหน้าที่ต้องเสีย
ภาษี ธุรกิจเฉพาะต้องเก็บและรักษารายงานพร้อมทั้งเอกสารประกอบ การลงรายงานหรือเอกสารที่อธิบดี
กําหนด ไว้ณสถานประกอบการจัดทํารายงานนั้นหรือสถานที่อื่นที่อธิบดีกรมสรรพากรกําหนดเป็นเวลาไม่
น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีหรือวันทํารายงานแล้วแต่กรณี