Page 51 - การเปนผประกอบการ
P. 51

45









                           2) สิทธิประโยชน์กรณีออกจากงาน ด้วยสาเหตุ

                               • ตาย ทุพพลภาพ หรือเกษียณอายุตามข้อบังคับของกองทุนสํารองเลี้ยงชีพ

                               • กรณีอื่นที่ไม่ใช่กรณีแรกแต่ได้คงเงินหรือผลประโยชน์นั้นไว้ทั้งจํานวนในกองทุน

            สํารองเลี้ยงชีพและต่อมาได้รับเงินหรือผลประโยชน์หลังจากลูกจ้างผู้นั้นตาย  ทุพพลภาพ หรือครบ
            กําหนด เกษียณอายุตามข้อบังคับของกองทุนสํารองเลี้ยงชีพ

                               • นายจ้างเงินสมทบที่นายจ้างจ่ายเข้ากองทุนถือเป็นรายจ่ายในการคํานวณกําไรสุทธิ

            เพื่อเสียภาษีตามจํานวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 15 ของค่าจ้างของลูกจ้างแต่ละราย

                               • กองทุน ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ โดยผลประโยชน์จากการนําเงินไปลงทุน ทั้งในรูป

            ของดอกเบี้ย เงินปันผล กําไรจากการขายหลักทรัพย์ และส่วนเกินทุน ไม่ต้องเสียภาษี

                 4. กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund) จัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม  พ.ศ. 2544

             โดยมีวัตถุประสงค์ส่งเสริมการออมภาคสมัครใจให้กับลูกจ้างที่นายจ้างไม่มีกองทุนสํารอง  เลี้ยงชีพหรือ

            ลูกจ้างที่ต้องการจะออมเงินเพิ่มขึ้น  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมจะเสนอกองทุนรวม  ในแบบ

            ความเสี่ยงต่างๆ กัน ผู้ลงทุนสามารถสับเปลี่ยนแผนการลงทุนจากกองทุนหนึ่งไปยังอีกกองทุนหนึ่ง  หรือ
            จะเปลี่ยนไปที่ผู้จัดการกองทุนอื่นก็ได้ หากผู้ลงทุนนั้นจะไถ่ถอนหน่วยลงทุนก่อนอายุครบ  55 ปี จะต้อง

            เสียภาษี 5 ปี ก่อนวันไถ่ถอน

                 5. กองทุนการออมแห่งชาติ (National Savings Fund) เป็นระบบการออมแบบสมัครใจ และ

            เลือกออมเป็นรายเดือนหรือรายงวดได้  ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างหลักประกันยามชราภาพใน

             รูปแบบบํานาญ สร้างความเท่าเทียมและเป็นธรรมแก่ประชาชน โดยเฉพาะแรงงานที่อยู่นอกระบบ ซึ่ง

            ผู้มี สิทธิเป็นสมาชิกจะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยซึ่งมีอายุไม่ต่ําว่า  15 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 60 ปี

            บริบูรณ์ และไม่เป็นสมาชิกของกองทุนเพื่อการชราภาพใดๆ  ที่มีการสมทบเงินจากรัฐหรือนายจ้าง
   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56