Page 20 - khlongsamwa
P. 20
13
กรุงเทพมหานคร และต่อมา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชด าริให้ยุบ
จังหวัดมีนบุรีเข้ากับจังหวัดพระนคร ขึ้นต่อมณฑลกรุงเทพมหานคร และมีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่เขต
หลายครั้ง จนมีการประกาศของคณะปฏิวัติให้ จังหวัดมีนบุรีมีฐานะเป็นเขต ๆ หนึ่งของกรุงเทพมหานคร
และตั้งเขตคลองสามวาขึ้นกลายเป็น เขตคลองสามวา
เรื่องที่ 2 ความส าคัญของเขตคลองสามวา
กกกกกกก ความส าคัญของเขตคลองสามวา ในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 เขตคลองสามวา
ได้แยกออกมาจากเขตมีนบุรี ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย โดยได้รวมพื้นที่การปกครอง
ของแขวงบางชัน แขวงสามวาตะวันตก แขวงสามวาตะวันออก แขวงทรายกองดิน และแขวงทรายกองดินใต้
เนื้อที่รวม 110.686 ตารางกิโลเมตร หรือ 69,178.75 ไร่ เมื่อแรกจัดตั้ง เขตคลองสามวามีประชากร
ประมาณ 85,000 คน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม ประชาชนในพื้นที่ยังเป็นเกษตรกรใช้ที่ดิน
เป็นแหล่งเพาะปลูกท านาข้าว ไร่หญ้า บ่อเลี้ยงปลา และสวนผลไม้ ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวคลองสามวา
ยังอิงอยู่กับธรรมชาติและสายน้ า เนื่องจากต้องอาศัยคลองเป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงวิถีชีวิตเกษตรกร
และเป็นเส้นทางสัญจรในระยะใกล้หรือในถิ่นที่ยังไม่มีถนน
กกกกกกกสภาพชีวิตของชาวคลองสามวาเมื่อสิบปีที่แล้วยังเป็นชาวชนบทเกือบเต็มรูปแบบ บางพื้นที่
ยังไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ าประปา ไม่มีถนน มีแต่น้ าในคลองทางเดินคอนกรีตริมคลอง หรือถนนลูกรัง
เลียบคลองให้ใช้สัญจรไปมา แต่ชาวคลองสามวา ยังมีความสุข มีน้ าใจ มีความรักและผูกพันกับถิ่นที่อยู่
มีล าคลองและท้องนา ชีวิตยังด าเนินอยู่ได้ด้วยความเอื้ออาทรระหว่างผู้คนกับธรรมชาติ
กกกกกกก ในช่วงระยะหลัง เขตคลองสามวา มีประชากรเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จากจ านวนหลัก
หมื่นเมื่อปี พ.ศ. 2540 เป็น 148,000 คน ในปี พ.ศ. 2551 และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่ง
เห็นได้ว่าจากสถิติการย้ายเข้า ที่เพิ่มมากขึ้นทุกเดือน มีเหตุผลหลายประการที่ท าให้ประชากรของ
เขตคลองสามวาเพิ่มมากขึ้นในระยะห้าปีที่ผ่านมาเหตุผลที่ส าคัญที่สุด คือเขตคลองสามวา สามารถ
รักษาสภาพแวดล้อมให้อยู่ในระดับดีเยี่ยม ท าให้เขตคลองสามวา เป็นเขตน่าอยู่ที่สุดในพื้นที่กรุงเทพ
ตะวันออก
กกกกกกก นอกจากนั้น การเอาใจใส่ดูแลสายน้ าล าคลอง และการรักษาสมดุลทางนิเวศวิทยา
ในการท าอาชีพเกษตรกรรม รวมถึงในพื้นที่ และพื้นที่ใกล้เคียงเป็นที่ตั้งของส่วนราชการ หน่วยงาน
และสถานที่ส าคัญต่าง ๆ ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งสามารถอ านวยความสะดวกสบาย ให้กับ
ประชาชนได้อย่างเต็มที่ ได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นประตูสู่สากล
สถาบันการศึกษาของรัฐและเอกชนรวม 26 แห่ง สถานีต ารวจนครบาลรวม 4 แห่ง โครงการ
บ้านเอื้ออาทร 3 แห่ง ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ทั้งค้าปลีกและค้าส่ง มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ อีกทั้ง
