Page 160 - งานนำเสนอ PowerPoint
P. 160
150
เสียงที่อยู่ในรูปของสัญญาณไฟฟ้าให้แรงขึ้น จนเพียงพอที่ทําให้ลําโพงเสียงสั่นสะเทือนเป็นเสียงให้เรา
ได้ยิน สถานีวิทยุกระจายเสียงแต่ละสถานีจะส่งคลื่นวิทยุด้วยความถี่ที่แตกต่างกัน ซึ่งเราสามารถเลือกสถานีเพื่อ
รับฟังได้โดยหมุนปุ่มเลือกสถานี
4.4.2 เครื่องขยายเสียง (Amplifier) คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงาน เสียงโดยรับ
สัญญาณไฟฟ้าจากไมโครโฟนหรือจากเครื่องกําเนิดสัญญาณไฟฟ้าจากเสียงต่างๆ มาขยาย สัญญาณไฟฟ้าจนมี
กําลังมากพอจึงส่งออกสู่ลําโพงเสียง จะต้องมีส่วนประกอบดังนี้
1) ไมโครโฟน เปลี่ยนพลังงานเสียงให้เป็นสัญญาณไฟฟ้า
2) เครื่องขยายสัญญาณไฟฟ้า ขยายสัญญาณไฟฟ้าให้แรงขึ้น
3) ลําโพง เปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้าให้เป็นพลังงานเสียง
4.4.3 เครื่องบันทึกเสียง (Tape Recorder) ขณะบันทึกด้วยการพูดผ่านไมโครโฟน ซึ่งจะ เปลี่ยน
พลังงานเสียงเป็นสัญญาณไฟฟ้า แล้วบันทึกลงในแถบบันทึกเสียงซึ่งฉาบด้วยสารแม่เหล็กในรูปของ สัญญาณ
แม่เหล็ก เมื่อนําแถบบันทึกเสียงที่บันทึกได้มาเล่น สัญญาณแม่เหล็กจะถูกเปลี่ยนกลับเป็นสัญญาณ ไฟฟ้า และ
สัญญาณนี้จะถูกขยายให้แรงขึ้นด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้าจนทําให้ลําโพงสั่นสะเทือนเป็นเสียงขึ้นอีกครั้ง หนึ่ง ในการใช้
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานเสียงพวกวิทยุหรือเครื่องเสียงประเภทต่างๆ ส่วนใหญ่สิ้นเปลือง พลังงานไฟฟ้าไม่
มาก แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกําลังไฟฟ้าของเครื่องเสียงนั้นๆ และขึ้นอยู่กับความดังของเสียงในการเปิดฟังด้วย
รูปที่ 7.16 แสดงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานเสียง
เครื่องใช้ไฟฟ้าสามารถเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานรูปอื่นได้หลายรูปแบบ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่
ยางชนิดกันจะใช้พลังงานไฟฟ้าต่างกันในเวลาที่เท่ากัน ในการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดต่างๆ สามารถ กราบ
คากําลังไฟฟ้าได้จากตัวเลขที่กํากับไว้ที่เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิด เช่น หลอดไฟฟ้ามีตัวเลขกํากับไว้ว่า100 W
หมายความว่า ใช้กับไฟฟ้าที่มีความต่างศักย์ไฟฟ้า 220 โวลต์ และใช้กําลังไฟฟ้า 100 วัตต์ คอ ใช้พลังงานไฟฟ้า
100 จูลใน 1 วินาที