Page 51 - งานนำเสนอ PowerPoint
P. 51
42
1) ชนิดของแชมพู แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ
(1) แชมพูใส คือ แชมพูที่มีลักษณะใส อาจมีสีหรือไม่มีสีก็ได้ แชมพูใสนี้ยังแบ่งไe บานแขมพูใส
ที่มีสมบัติเน้นด้านการสระให้สะอาด โดยอาจจะใส่สารปรับสภาพเพียงเล็กน้อย แซมพาเพาะ นี้จะมีราคาถูกกว่า
ชนิดอื่นๆ นิยมใช้กันมากตามร้านทําผมทั่วไป และแชมพูใสแบบ 2 in 1 ซึ่งจะใส่สารปรับ สภาพมากขึ้น เหมาะ
สําหรับผมที่ค่อนข้างมันหรือผู้ที่มีผมบางหรือเส้นผมเล็ก
(2) แชมพูมุก คือ แชมพูที่มีลักษณะประกายมุก อาจมีสีหรือไม่มีก็ได้ แชมพูมุก แบ่งได้ใน
ลักษณะเดียวกับแชมพูใส คือ แชมพูมุกที่เน้นในเรื่องสระสะอาดโดยใส่สารปรับสภาพเพียงเล็ก น้อย แต่ต้องการ
ให้แชมพูมีลักษณะน่าใช้จึงใส่มุกเพื่อให้แชมพูมีลักษณะประกายมุก และแชมพูมุกแบบ 2 in 1 จะใส่สารปรับ
สภาพมากขึ้น เหมาะสําหรับผมขนาดกลางหรือเส้นใหญ่หรือผมที่หนามากๆ
(3) แชมพูขจัดรังแคในปัจจุบันแชมพูขจัดรังแคมีทั้งชนิดใสและขุ่นโดยใช้สารขจัดรังแค ต่างชนิด
กัน การผลิตแชมพูขจัดรังแคเพื่อจําหน่ายจําเป็นต้องขอเลขประจําตัวผลิตภัณฑ์แสดงอยู่ภายใต้กรอบ กองหมาย
อย. ก่อนจะวางจําหน่าย ซึ่งแบ่งเป็นแชมพูขจัดรังแคชนิดใส สารขจัดรังแคที่ใช้คือคลิมบาโซล (Climbazole) ซึ่ง
เมื่อผสมลงในแชมพูแล้วจะได้แชมพูใส ปริมาณที่ใช้อยู่ในช่วง 0.5-1% และแชมพูขจัดรังแคชนิดขุ่น สารขจัด
รังแคที่ใช้คือ ซิงค์ไพรไทออน (Zinc Pyrithione : ZPTO) เนื่องจาก ZPTO นี้มีลักษณะเป็นสารอุ่น ดังนั้นเมื่อใส่
ลงในแชมพูแล้วจะทําให้ลักษณะแชมพูที่ได้นั้นจั่น ปริมาณ ZPTO นิยมใช้ในแชมพู คือ ประมาณ 1-2%
รูปที่ 2.10 แสดงผลิคภัณฑ์แชมพูสมุนไพร
(ที่มา:http://www.thaismescenter.com)
2) ส่วนประกอบที่สําคัญของแชมพู ดังนี้
(1) สารทําความสะอาด ที่มีสมบัติทําความสะอาดได้ดี และมีฟองมาก
(2) สารช่วยลดการระคายเคืองเป็นสารที่นิยมใช้คู่กับสารจําพวกแรก เพื่อให้เกิดความ อ่อน
ละมุน เนื่องจากถ้าใช้สารจําพวกแรกในปริมาณสูงเพียงตัวเดียว อาจทําให้หนังศีรษะเกิดการระคายเคืองหรือ
เส้นผมหยาบ