Page 46 - <4D6963726F736F667420576F7264202D20C3B8B93120BEC3D0C3D2AAE2CDA7A1D2C320E1A1E920332E646F63>
P. 46

หน้า   ๔๖

              เล่ม   ๑๓๔   ตอนที่   ๔๐   ก          ราชกิจจานุเบกษา                    ๖   เมษายน   ๒๕๖๐


                      (๑๑)  การตราข้อบังคับการประชุมรัฐสภาตามมาตรา  ๑๕๗
                      (๑๒)  การแถลงนโยบายตามมาตรา  ๑๖๒

                      (๑๓)  การให้ความเห็นชอบในการประกาศสงครามตามมาตรา  ๑๗๗
                      (๑๔)  การรับฟังคําชี้แจงและการให้ความเห็นชอบหนังสือสัญญาตามมาตรา  ๑๗๘

                      (๑๕)  การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามมาตรา  ๒๕๖
                      (๑๖)  กรณีอื่นตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
                      มาตรา  ๑๕๗  ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาให้ใช้ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา  ในระหว่าง

              ที่ยังไม่มีข้อบังคับการประชุมรัฐสภา  ให้ใช้ข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรโดยอนุโลมไปพลางก่อน
                      ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา  ให้นําบทที่ใช้แก่สภาทั้งสองมาใช้บังคับโดยอนุโลม  เว้นแต่

              ในเรื่องการตั้งคณะกรรมาธิการ  กรรมาธิการซึ่งตั้งจากผู้ซึ่งเป็นสมาชิกของแต่ละสภาจะต้องมีจํานวนตาม
              หรือใกล้เคียงกับอัตราส่วนของจํานวนสมาชิกของแต่ละสภา

                                                        หมวด  ๘

                                                      คณะรัฐมนตรี


                      มาตรา  ๑๕๘  พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอื่นอีกไม่เกินสามสิบห้าคน

              ประกอบเป็นคณะรัฐมนตรี  มีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินตามหลักความรับผิดชอบร่วมกัน
                      นายกรัฐมนตรีต้องแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบตามมาตรา  ๑๕๙

                      ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี
                      นายกรัฐมนตรีจะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกินแปดปีมิได้  ทั้งนี้  ไม่ว่าจะเป็นการดํารงตําแหน่ง
              ติดต่อกันหรือไม่  แต่มิให้นับรวมระยะเวลาในระหว่างที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหลังพ้นจากตําแหน่ง

                      มาตรา  ๑๕๙  ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้ง
              เป็นนายกรัฐมนตรีจากบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา  ๑๖๐  และเป็นผู้มีชื่ออยู่

              ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา  ๘๘  เฉพาะจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองที่มีสมาชิก
              ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่น้อยกว่าร้อยละห้าของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของ
              สภาผู้แทนราษฎร

                      การเสนอชื่อตามวรรคหนึ่งต้องมีสมาชิกรับรองไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจํานวนสมาชิกทั้งหมด
              เท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร

                      มติของสภาผู้แทนราษฎรที่เห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลใดให้เป็นนายกรัฐมนตรี  ต้องกระทํา
              โดยการลงคะแนนโดยเปิดเผย  และมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่

              ของสภาผู้แทนราษฎร
                      มาตรา  ๑๖๐  รัฐมนตรีต้อง
                      (๑)  มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51