Page 54 - <4D6963726F736F667420576F7264202D20C3B8B93120BEC3D0C3D2AAE2CDA7A1D2C320E1A1E920332E646F63>
P. 54

หน้า   ๕๔

              เล่ม   ๑๓๔   ตอนที่   ๔๐   ก          ราชกิจจานุเบกษา                    ๖   เมษายน   ๒๕๖๐


              ในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทดังกล่าวให้แก่นิติบุคคลซึ่งจัดการทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น  ทั้งนี้  ตามที่
              กฎหมายบัญญัติ

                      รัฐมนตรีจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท
              ตามวรรคสองไม่ว่าในทางใด ๆ  มิได้

                      มาตรานี้เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับความเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้น  ให้ใช้บังคับแก่คู่สมรสและ
              บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของรัฐมนตรี  และการถือหุ้นของรัฐมนตรีที่อยู่ในความครอบครองหรือดูแลของ
              บุคคลอื่นไม่ว่าโดยทางใด ๆ  ด้วย



                                                       หมวด  ๑๐
                                                          ศาล



                                                        ส่วนที่  ๑

                                                        บททั่วไป


                      มาตรา  ๑๘๘  การพิจารณาพิพากษาอรรถคดีเป็นอํานาจของศาล  ซึ่งต้องดําเนินการให้เป็นไป
              ตามกฎหมาย  และในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์
                      ผู้พิพากษาและตุลาการย่อมมีอิสระในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย

              ให้เป็นไปโดยรวดเร็ว  เป็นธรรม  และปราศจากอคติทั้งปวง
                      มาตรา  ๑๘๙  บรรดาศาลทั้งหลายจะตั้งขึ้นได้แต่โดยพระราชบัญญัติ

                      การตั้งศาลขึ้นใหม่หรือกําหนดวิธีพิจารณาเพื่อพิจารณาพิพากษาคดีใดคดีหนึ่งหรือที่มีข้อหา
              ฐานใดฐานหนึ่งโดยเฉพาะแทนศาลที่มีตามกฎหมายสําหรับพิจารณาพิพากษาคดีนั้น ๆ  จะกระทํามิได้
                      มาตรา  ๑๙๐  พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งและให้ผู้พิพากษาและตุลาการพ้นจากตําแหน่ง

              แต่ในกรณีที่พ้นจากตําแหน่งเพราะความตาย  เกษียณอายุ  ตามวาระ  หรือพ้นจากราชการเพราะถูกลงโทษ
              ให้นําความกราบบังคมทูลเพื่อทรงทราบ

                      มาตรา  ๑๙๑  ก่อนเข้ารับหน้าที่  ผู้พิพากษาและตุลาการต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์
              ด้วยถ้อยคํา  ดังต่อไปนี้

                      “ข้าพระพุทธเจ้า  (ชื่อผู้ปฏิญาณ)  ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า  ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดี
              ต่อพระมหากษัตริย์  และจะปฏิบัติหน้าที่ในพระปรมาภิไธยด้วยความซื่อสัตย์สุจริตโดยปราศจากอคติทั้งปวง
              เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ประชาชน  และความสงบสุขแห่งราชอาณาจักร  ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตาม

              ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
              และกฎหมายทุกประการ”
   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59