Page 56 - <4D6963726F736F667420576F7264202D20C3B8B93120BEC3D0C3D2AAE2CDA7A1D2C320E1A1E920332E646F63>
P. 56

หน้า   ๕๖

              เล่ม   ๑๓๔   ตอนที่   ๔๐   ก          ราชกิจจานุเบกษา                    ๖   เมษายน   ๒๕๖๐


              คดีนั้นมาก่อน  และได้รับคัดเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาจํานวนเก้าคน  โดยให้เลือกเป็นรายคดี

              และเมื่อองค์คณะของศาลฎีกาดังกล่าวได้วินิจฉัยแล้ว  ให้ถือว่าคําวินิจฉัยนั้นเป็นคําวินิจฉัยอุทธรณ์ของ

              ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา

                      ในกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองมีคําพิพากษาให้ผู้ใด

              พ้นจากตําแหน่ง  หรือคําพิพากษานั้นมีผลให้ผู้ใดพ้นจากตําแหน่ง  ไม่ว่าจะมีการอุทธรณ์ตามวรรคสี่หรือไม่
              ให้ผู้นั้นพ้นจากตําแหน่งตั้งแต่วันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองมีคําพิพากษา

                      หลักเกณฑ์และวิธีการอุทธรณ์ตามวรรคสี่  และการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ตามวรรคห้า

              ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่ง

              ทางการเมือง

                      มาตรา  ๑๙๖  การบริหารงานบุคคลเกี่ยวกับผู้พิพากษาศาลยุติธรรมต้องมีความเป็นอิสระ

              และดําเนินการโดยคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม  ซึ่งประกอบด้วยประธานศาลฎีกาเป็นประธาน
              และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นข้าราชการตุลาการในแต่ละชั้นศาล  และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งไม่เป็นหรือเคยเป็น

              ข้าราชการตุลาการ  บรรดาที่ได้รับเลือกจากข้าราชการตุลาการไม่เกินสองคน  ทั้งนี้  ตามที่กฎหมายบัญญัติ


                                                        ส่วนที่  ๓
                                                      ศาลปกครอง


                      มาตรา  ๑๙๗  ศาลปกครองมีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีปกครองอันเนื่องมาจากการใช้อํานาจ

              ทางปกครองตามกฎหมายหรือเนื่องมาจากการดําเนินกิจการทางปกครอง  ทั้งนี้  ตามที่กฎหมายบัญญัติ

                      ให้มีศาลปกครองสูงสุดและศาลปกครองชั้นต้น

                      อํานาจศาลปกครองตามวรรคหนึ่ง  ไม่รวมถึงการวินิจฉัยชี้ขาดขององค์กรอิสระซึ่งเป็นการใช้อํานาจ
              โดยตรงตามรัฐธรรมนูญขององค์กรอิสระนั้น ๆ

                      การจัดตั้ง  วิธีพิจารณาคดี  และการดําเนินงานของศาลปกครองให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น

                      มาตรา  ๑๙๘  การบริหารงานบุคคลเกี่ยวกับตุลาการศาลปกครองต้องมีความเป็นอิสระ

              และดําเนินการโดยคณะกรรมการตุลาการศาลปกครองซึ่งประกอบด้วยประธานศาลปกครองสูงสุดเป็นประธาน

              และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นตุลาการในศาลปกครอง  และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งไม่เป็นหรือเคยเป็นตุลาการ
              ในศาลปกครองไม่เกินสองคน  บรรดาที่ได้รับเลือกจากข้าราชการตุลาการศาลปกครอง  ทั้งนี้  ตามที่

              กฎหมายบัญญัติ
   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61