Page 4 - ดวงพิชัยสงคราม
P. 4
ต�ำรำพิชัยสงครำมไทย
ชาติไทยเป็นชาติที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศ นับแต่
อดีตจนถึงปัจจุบัน นานกว่า 700 ปีแล้ว พระมหากษัตริย์ทรงเป็นผู้น�า
สร้างบ้านเมือง ทรงปกครองแผ่นดินด้วยทศพิธราชธรรม ทรง
ทะนุบ�ารุงบ้านเมืองและประชาราษฎร์ให้อยู่ร่มเย็น และทรงเป็นจอมทัพใน
สงครามปกป้องผืนแผ่นดินจากอริราชศัตรู
ต�าราพิชัยสงครามตามแบบฉบับนั้น เริ่มต้นด้วยบทนมัสการพระ
อิศวร พระนารายณ์ เพื่อขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าในโลกทั้งสาม ให้คุ้ม
เกล้าปกต้องกันภัยต่างๆ และมีบางฉบับเริ่มต้นด้วยบทนมัสการพระ
รัตนตรัย
การสงครามของไทยแต่โบราณกาลนั้น มีแบบแผนการรบเป็นแบบ
ฉบับที่เรียกว่า ต�าราพิชัยสงคราม ซึ่งให้ความรู้ในด้านกลยุทธ์ต่างๆ ใน
การสู้รบกับข้าศึก เพื่อป้องกันเอกราชของชาติ และผืนแผ่นดินไทยให้
รวมอยู่เป็นปึกแผ่นมั่นคง กระบวนพยุหยาตราทัพ ประกอบด้วยริ้ว
ขบวน ขนาบ ขนาน ของเหล่าทหารตามล�าดับชั้น ด้วยระเบียบวินัยอันดี
ยิ่ง มีแสนยานุภาพเข้าท�าศึก มียุทธานุภาพอันเกรียงไกร
วิชาโหราศาสตร์มีอิทธิพลอย่างยิ่งในการพิชัยสงคราม ดังนั้น
จึงจ�าเป็นต้องมีโหราจารย์ประจ�ากองทัพ เปรียบดุจเป็นดวงตาของกอง
ทัพ และผู้ที่จะเป็นแม่ทัพต้องมีดวงชะตาให้คุณแก่ผู้เป็นประมุขของประเทศ
ด้วย
การคัดเลือกทหารเข้ากองทัพ ต้องน�านามของบุคคลเหล่านั้นมา
ค�านวณทางโหราศาสตร์ ค�านวณแล้วมีเศษเท่าใด จะได้ชื่อตามที่ก�าหนดไว้
เช่น เศษหนึ่งชื่อครุฑปักษี เศษสองชื่อพยัคฆนาม เป็นต้น แล้วจึงให้ผู้มี
นามเหล่านั้น เข้าประจ�ารักษาการตามต�าแหน่งของกระบวนทัพ
ส่วนการสู้รบของแม่ทัพนายกองนั้น ไม่ได้กระท�าด้วยศัสตราวุธ
อย่างเดียว แม้แต่ชื่อของขุนพลก็ต้องหานามตามพิชัยสงครามเข้าข่มกัน
ด้วย เช่น ถ้านามของขุนพลฝ่ายข้าศึกเป็นนาคนาม ให้ใช้ขุนพลครุฑนาม
ออกต่อสู้ ถ้านามฝ่ายข้าศึกเป็นมุสิกนาม ให้ใช้ขุนพลพยัคฆนามออกสู้
รบ ถ้านามฝ่ายข้าศึกเป็นสุนัขนาม ให้ใช้ขุนพลสีหนามออกต่อสู้ ถ้านาม
ฝ่ายข้าศึกเป็นอชนาม ให้ใช้ขุนพลคชนามออกต่อสู้ เมื่อเป็นดังนี้แล้ว ก็จะ
ได้ชัยชนะ
4 ดวงพิชัยสงคราม