Page 114 - หนังสือเรียนสาระความรู้พื้นฐาน
P. 114

107



                         1. การปองกันขั้นพื้นฐาน (Primary Prevention)

                                การปองกันพื้นฐานหรือบางคนเรียกวาการปองกันเบื้องตน หมายถึง การดําเนินการใด ๆ
                  เพื่อสรางภูมิคุมกันใหเยาวชนปดประตูที่จะนําไปสูการใชยาเสพติดอยางถาวร ใหเยาวชนตัดสินใจดวยตนเอง

                  ที่จะไมใชยาเสพติด ไมคิดจะเสี่ยงทดลอง เปนการมุงปองกันคนสวนใหญของแผนดินไมใหเขาไปหายาเสพ

                  ติด เปนการปองกันอยางถาวร

                                งานปองกันขั้นพื้นฐานจึงนับเปนงานที่มีความสําคัญที่สุด และเปนกุญแจสําคัญนําไปสู
                  ความสําเร็จของการปองกันและแกไขปญหายาเสพติดของชาติ แตในขณะเดียวกันเปนงานที่มีความ

                  สลับซับซอนทําไดยาก เพราะเปนงานที่เกี่ยวของกับการวางรากฐานใหกับคนสวนใหญของประเทศ ซึ่งตอง

                  เริ่มปลูกฝงตั้งแตยังเยาววัยตอเนื่องกันไปจนพนวัยเรียน โดยอาศัยความรวมมือจากหลายฝายใหชวยกันทํา
                         2. การปองกันขั้นที่สอง (Secondary Prevention)

                                การปองกันขั้นที่สองนี้ใชกันในความหมายที่แบงเปน 2 นัย นัยหนึ่งหมายถึง การปองกัน

                  โดยทางออม ซึ่งหมายถึงการกระทําใดๆ ที่เปนการขัดขวางไมใหยาเขาไปสูคน โดยมีจุดมองที่เริ่มจากตัวยา

                  เสพติดที่เปนปญหาหลัก  ซึ่งตรงกันขามกับการปองกันขั้นพื้นฐานที่มุงปองกันไมใหคนเขาไปหายา ดวยการ
                  มองภาพที่คนเปนจุดตั้งตน

                                ดังนั้นการปองกันขั้นที่สองตามความหมายนี้จึงครอบคลุมถึงงานเกี่ยวกับการปราบปรามยึด

                  อายัด เผาทําลายยาเสพติด การสกัดกั้น การตรวจเขม การตรวจปสสาวะหาสารเสพติด การสงเจาหนาที่
                  ตํารวจเขาไปประจําทําการสอดแนมในโรงเรียน รวมถึงมาตรการตรวจจับจําแนกเพื่อแยกผูใชยาเสพติดไป

                  รับการบําบัดรักษาฟนฟู หรือปองกันไมใหผูติดยาสามารถเผยแพรยาเสพติดไปสูผูไมใชเสพติดดวย

                                สวนอีกนัยหนึ่งเปนความหมายที่มักใชกันในวงการของผูมีอาชีพแนะแนว ในความหมาย
                  ของการดําเนินการชวยเหลือใหผูที่เคยลองใชยาเสพติด หรือผูที่ใชยาเสพติดชนิดใดชนิดหนึ่งเปนครั้งคราว

                  หรือใชบอยๆ แตยังไมติดยา ใหปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเลิกใช เลิกเกี่ยวของกับยาเสพติดชนิดนั้นๆ เปน

                  มาตรการแยกคนออกจากยา หรือดึงคนติดยาออกจากยาเสพติดดวยมาตรการแนะแนวใหคําปรึกษาและจิต

                  เวชบําบัด เปนการปองกันที่เนนการสกัดกั้นเพื่อหยุดยั้งพฤติกรรมการใชยาเสพติดของกลุมผูที่ใชยาเสพติด
                  หรือมีประสบการณเกี่ยวของกับยาเสพติดมาแลว

                          3. การปองกันขั้นที่สาม (Tertiary Prevention)

                                การปองกันขั้นที่สามคือการปองกันการติดซ้ํา (Relapse) เปนมาตรการที่ใชสําหรับผูติดยา

                  เสพติดที่ไดรับการบําบัดรักษาดวยการถอนพิษยาแลวไมใหกลับไปติดยาซ้ําใหมอีก เปนมาตรการเสริมที่
                  สนับสนุนมาตรการทางการแพทย เพื่อใหผูปวยที่ไดรับการรักษาใหหายขาดจากยาแลวอยูอยางปลอดภัยจาก

                  ยาเสพติดไดยาวนานขึ้นกอนที่จะหวนกลับไปติดยาอีก

                                การปองการขั้นที่สามจะอาศัยมาตรการทุกชนิดที่มุงใหผูติดยาหายจากอาการติดยาทางจิต
                  ดวยมาตรการฟนฟูจิตใจ (Rehabilitation) ดวยวิธีจิตเวชบําบัด (Psychological therapy) การใหคําปรึกษา

                  (Social counseling) กลุมบําบัด (Group therapy) และนันทนาการบําบัด (Recreational therapy) เปนตน
   109   110   111   112   113   114   115   116   117   118   119