Page 70 - รายงานสำรวจและจัดทำแผนผังถ้ำ เขตอุทยานแห่งชาติภาคใต้
P. 70
62
3.2.12 แผนผังถ้ำโกงกาง
ข้อมูลทั่วไป : ถ้ำโกงกางตั้งอยู่ในเกาะพนัก เขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ตำบล
เกาะปันหยี อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา พิกัดที่ 444042 ตะวันออก 906183 เหนือ เดินทางโดย
รถยนต์จากอำเภอเมืองพังงา ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 มุ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ แล้วเลี้ยวซ้ายใช้ทาง
หลวงหมายเลข 4144 ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติอ่าวพงงา ระยะทางประมาณ 7.2 กิโลเมตร และนั่งเรือ
ั
จากอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาถึงถ้ำโกงกาง ระยะทางประมาณ 24 กิโลเมตร
ลักษณะเด่น : เป็นถ้ำชายฝั่งทะเลหรือถ้ำทะเล และถ้ำที่เกิดจากการละลาย น้ำทะเล
โบราณกัดเซาะเกาะพนักจนเกิดโพรงถ้ำ ลักษณะเป็นช่องลอดใต้ภูเขาทะลุจากปากถ้ำฝั่งด้านที่ติดทะเล
้
ไปสู่อีกปากถำด้านที่เป็นป่าโกงกาง โถงถ้ำหลัก 1 โถง โถงย่อย 4 โถง พบประติมากรรมถ้ำที่สวยงาม เช่น
หินย้อย หินน้ำไหล เสาหิน และม่านหินย้อย เป็นต้น (รูปที่ 3.31) เมื่อเดินจากชายฝั่งทะเลผ่านโพรงถ้ำ
ที่เป็นช่องเข้าไปให้หินปูนจะพบว่าอกด้านเป็นป่าโกงกางที่ล้อมรอบด้วยหน้าผาหินปูนสูงชัน เป็นที่มาของชื่อ
ี
“ถ้ำโกงกาง” การสำรวจและจัดทำแผนผังถ้ำเทียบได้กับระดับ 4 (grade 4) ตามมาตรฐานการสำรวจของ
สมาคมวิจัยถ้ำของประเทศอังกฤษ (British Cave Research Association: BCRA) คณะสำรวจได้
กำหนดให้อยู่ระหว่าง ชั้น B (class B) ความยาวโถงหลัก 111.773 เมตร ความยาวโถงย่อย 33.050 เมตร
ความยาวรวม 144.823 เมตร (รูปที่ 3.32)
ลักษณะธรณีวิทยา : ลักษณะภูมิประเทศแบบคาสต์ ถ้ำ แนวของเทือกเขาหินปูน
มียอดตะปุ่มตะป่ำและยอดแหลมสูงๆ ต่ำๆ ไม่สม่ำเสมอกัน และหลุมยุบ มีแนวการวางตัวในทิศเหนือ-ใต้
หินปูนบริเวณนี้จัดอยู่ในกลุ่มหินราชบุรี ประกอบด้วย หินปูน หินปูนเนื้อโดโลไมต์ สีเทาปานกลางถึงเทา
ชั้นหนาถึงไม่แสดงชั้น เนื้อหินปูนขนาดละเอียดมีซากดึกดำบรรพ์ปนอยู่น้อยกว่าร้อยละ 10 (Dunham,
1962) มีก้อนเชิร์ตลักษณะเป็นเลนส์วางตัวตามแนวการวางตัวของชั้นหิน พบซากดึกดำบรรพ์พวก
ไครนอยด์สเต็ม หอยฝาเดียว แบรคิโอพอด หอยสองฝา ปะการัง และฟองน้ำ มีอายุอยู่ในยุคเพอร์เมียน
หรือประมาณ 299-252 ล้านปีมาแล้ว
การเกิดถ้ำโกงกาง : เป็นถ้ำชายฝั่งทะเลหรือถ้ำทะเล และถ้ำที่เกิดจากการละลาย ในอดีต
ยุคเพอร์เมียนเมื่อประมาณ 299 – 252 ล้านปีก่อน บริเวณถ้ำเคยเป็นทะเลมาก่อนมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ใน
ทะเลเป็นจำนวนมาก เช่น ฟูซูลินิด ปะการัง ฟองน้ำ ไครนอยด์ หอยฝาเดียว และหอยสองฝา เป็นต้น
เมื่อเวลาผ่านไปตะกอนคาร์บอเนตที่สะสมอยู่ในทะเลผ่านกระบวนทางธรณีวิทยาแข็งตัวกลายเป็นหินปูน
พร้อมทั้งสิ่งมีชีวิตที่เคยอาศัยอยู่ในทะเลก็กลายเป็นซากดึกดำบรรพ์ ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงของ
แผ่นเปลือกโลกทำให้ชั้นหินถูกยกตัวขึ้นกลายเป็นภูเขาหินปูน พบโครงสร้างธรณีวิทยา เช่น ชั้นหินคดโค้ง
รอยแตก และรอยเลื่อนภายในชั้นหินจำนวนมาก เป็นต้น น้ำทะเลในอดีตที่เพิ่มระดับสูงขึ้นกัดเซาะเกาะแผ่
เป็นบริเวณกว้าง ร่องรอยที่บันทึกตามเกาะในพื้นที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาเป็นหลักฐานการเพิ่มขึ้นของ
ระดับน้ำทะเลโบราณ ร่องรอยดังกล่าวเรียกว่า “เว้าทะเล” นอกจากนี้น้ำทะเลได้กัดเซาะหินปูนตาม
แนวรอยแตก รอยเลื่อน จนเกิดโพรงถ้ำลอดใต้ภูเขาทะลุจากปากถ้ำฝั่งด้านที่ติดทะเลไปสู่อีกปากถ้ำด้าน
ที่เป็นป่าโกงกาง และบันทึกร่องรอยภายในถ้ำจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบซากหอยนางรมยักษ์
(Crassostrea gigas) เป็นซากหอยโบราณกึ่งฟอสซิล โดยหอยนางรมยักษ์ เป็นหอยที่อาศัยอยู่ตามป่าชายเลน
แนวขอบทะเล และได้สูญพันธุ์ไปนานแล้ว ผิดจากหอยนางรมในปัจจุบันที่ชอบอยู่ตามโขดหิน หลักฐานว่า
บริเวณเพดานถ้ำเคยเป็นขอบทะเล (รูปที่ 3.31 (ค)) หลังจากนั้นระดับของน้ำทะเลค่อยๆ ลดลง ในขณะที่
ระดับของน้ำทะเลกำลังลดลง น้ำฝนที่รวมตัวกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน