Page 73 - รายงานสำรวจและจัดทำแผนผังถ้ำ เขตอุทยานแห่งชาติภาคใต้
P. 73

65




                                 แนวทางในการบริหารจัดการแหล่ง : แหล่งนี้มีศักยภาพในการพัฒนาและการบริหาร
                   จัดการอยู่ในระดับปานกลางสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับจังหวัดได้ แหล่งเรียนรู้เรื่องถำ ควรมี
                                                                                                   ้
                   แผ่นพับข้อควรปฏิบัติในการเที่ยวถ้ำ แสดงแผนผังภายในถ้ำและลักษณะการเกิดของถ้ำ รวมถึงการเกิด
                   ประติมากรรมถ้ำ เช่น หินย้อยย้อนแสง ม่านหินย้อย หินย้อย และหินน้ำไหล เป็นต้น

                   3.2.13 แผนผังถ้ำปีน

                                                                                        ั
                                 ข้อมูลทั่วไป : ถ้ำปีนตั้งอยู่ในเกาะพนัก เขตพื้นที่อทยานแห่งชาติอาวพงงา ตำบลเกาะปันหยี
                                                                        ุ
                                                                                     ่
                   อำเภอเมืองพงงา จังหวัดพังงา พิกัดท 443552 ตะวันออก 906147 เหนือ เดินทางโดยรถยนต์จากอำเภอ
                              ั
                                                  ี่
                   เมืองพังงา ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 มุ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ แล้วเลี้ยวซ้ายใช้ทางหลวงหมายเลข
                   4144 ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ระยะทางประมาณ 7.2 กิโลเมตร และเดินทางโดยเรือจาก
                   อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาถึงถ้ำปีน ระยะทางประมาณ 24 กิโลเมตร

                                 ลักษณะเด่น : เป็นถ้ำชายฝั่งทะเลหรือถ้ำทะเล และถ้ำที่เกิดจากการละลาย น้ำทะเล
                   โบราณกัดเซาะเกาะพนักจนเกิดโพรงถ้ำ ลักษณะเป็นช่องลอดใต้ภูเขาทะลุจากปากถ้ำฝั่งด้านที่ติดทะเล

                   ไปสู่อีกด้านที่เป็นทะเลใน โถงถ้ำหลัก 1 โถง โถงย่อย 3 โถง พบประติมากรรมถ้ำที่สวยงาม เช่น หินย้อย
                   ย้อนแสง หินย้อย หินน้ำไหล เสาหิน และม่านหินย้อย เป็นต้น (รูปที่ 3.33) พื้นถ้ำปีนมีระดับสูงกว่าระดับ
                   ของน้ำทะเล ในการเข้าเที่ยวถ้ำจะต้องปีนขึ้นจากเรือเพื่อเข้าไปดูความสวยงามภายในถ้ำ และความ

                   สวยงามของทะเลใน เป็นที่มาของชื่อ “ถ้ำปีน”การสำรวจและจัดทำแผนผังถ้ำเทียบได้กับระดับ 4 (grade 4)
                   ตามมาตรฐานการสำรวจของสมาคมวิจัยถ้ำของประเทศอังกฤษ (British Cave Research Association:
                   BCRA) คณะสำรวจได้กำหนดให้อยู่ระหว่าง ชั้น B (class B) ความยาวโถงหลัก 47.627 เมตร ความยาว
                   โถงย่อย 4.138 เมตร ความยาวรวม 51.765 เมตร (รูปที่ 3.34)

                                 ลักษณะธรณีวิทยา : ลักษณะภูมิประเทศแบบคาสต์ ถ้ำ แนวของเทือกเขาหินปูน

                   มียอดตะปุ่มตะป่ำและยอดแหลมสูงๆ ต่ำๆ ไม่สม่ำเสมอกัน และหลุมยุบ มีแนวการวางตัวในทิศเหนือ-ใต้
                   หินปูนบริเวณนี้จัดอยู่ในกลุ่มหินราชบุรี ประกอบด้วย หินปูน หินปูนเนื้อโดโลไมต์ สีเทาปานกลางถึงเทา
                   ชั้นหนาถึงไม่แสดงชั้น เนื้อหินปูนขนาดละเอียดมีซากดึกดำบรรพ์ปนอยู่น้อยกว่าร้อยละ 10  (Dunham,
                   1962) มีก้อนเชิร์ตลักษณะเป็นเลนส์วางตัวตามแนวการวางตัวของชั้นหิน พบซากดึกดำบรรพ์พวก

                   ไครนอยด์สเต็ม หอยฝาเดียว แบรคิโอพอด หอยสองฝา ปะการัง และฟองน้ำ มีอายุอยู่ในยุคเพอร์เมียน
                   หรือประมาณ 299-252 ล้านปีมาแล้ว

                                 การเกิดถ้ำปีน : เป็นถ้ำชายฝั่งทะเลหรือถ้ำทะเล และถ้ำที่เกิดจากการละลาย ในอดีตยุค
                   เพอร์เมียนเมื่อประมาณ 299 – 252 ล้านปีก่อน บริเวณถ้ำเคยเป็นทะเลมาก่อนมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในทะเล
                   เป็นจำนวนมาก เช่น ฟูซูลินิด ปะการัง ฟองน้ำ ไครนอยด์ หอยฝาเดียว และหอยสองฝา เป็นต้น เมื่อเวลา

                   ผ่านไปตะกอนคาร์บอเนตที่สะสมอยู่ในทะเลผ่านกระบวนทางธรณีวิทยาแข็งตัวกลายเป็นหินปูน พร้อมทั้ง
                   สิ่งมีชีวิตที่เคยอาศัยอยู่ในทะเลก็กลายเป็นซากดึกดำบรรพ์ ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงของแผ่นเปลือกโลก
                   ทำให้ชั้นหินถูกยกตัวขึ้นกลายเป็นภูเขาหินปูน พบโครงสร้างธรณีวิทยา เช่น ชั้นหินคดโค้ง รอยแตก
                   และรอยเลื่อนภายในชั้นหินจำนวนมาก เป็นต้น น้ำทะเลในอดีตที่เพิ่มระดับสูงขึ้นกัดเซาะเกาะแผ่เป็น

                   บริเวณกว้าง ร่องรอยที่บันทึกตามเกาะในพื้นที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาเป็นหลักฐานการเพิ่มขึ้นของ
                   ระดับน้ำทะเลโบราณ ร่องรอยดังกล่าวเรียกว่า “เว้าทะเล” (รูปที่ 3.33 (ข)) นอกจากนี้น้ำทะเลได้กัดเซาะ
                                                                                                   ี
                   หินปูนตามแนวรอยแตก รอยเลื่อน จนเกิดโพรงถ้ำลอดใต้ภูเขาทะลุจากปากถ้ำฝั่งด้านที่ติดทะเลไปสู่อกด้านที่
                   เป็นทะเลใน และยังพบบันทึกร่องรอยการเจาะผนังถ้ำของหอยเกือบตลอดแนวโถงถ้ำจนเป็นช่องขนาดเล็กๆ
   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78