Page 113 - รายงานโครงการสำรวจข้อมูลอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์
P. 113
8.2.2 ภาคการศึกษาควรสนับสนุนโครงการสหกิจศึกษาเพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติจริง และ
ควรมีการเปิดช่องทางให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปสอนในสถาบันการศึกษาได้มากขึ้น
ส ำหรับกำรฝึกงำนในสำขำที่ต้องใช้ทักษะเฉพำะทำงในอุตสำหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ กำร
ฝึกงำนเพียง 2 เดือนนั้นยังไม่สำมำรถท ำให้ทำงบริษัทเห็นผีมือของนักศึกษำได้ และใน
ขณะเดียวกันนักศึกษำเองก็ยังไม่ได้เรียนรู้กระบวนกำรในกำรท ำงำนอย่ำงครบถ้วน ดังนั้นระบบ
สหกิจศึกษำที่ให้นักศึกษำได้เข้ำไปปฏิบัติงำนจริงในบริษัทเป็นระยะเวลำประมำณ 6 เดือนจึงเป็น
ระบบที่จะช่วยให้นักศึกษำได้เรียนรู้และพัฒนำตนเอง อีกทั้งยังท ำให้บริษัทได้เห็นฝีมือของ
นักศึกษำเพื่อพิจำรณำถึงกำรจ้ำงงำนหลังเรียนจบอีกด้วย นอกจำกนี้ ภำคกำรศึกษำควรเปิด
ช่องทำงให้ผู้เชี่ยวชำญเข้ำไปสอนในสถำบันกำรศึกษำได้มำกขึ้น เนื่องจำกปัจจุบันกำรเข้ำไปสอน
ในมหำวิทยำลัยได้นั้นจะมีข้อจ ำกัดจำกกฎเกณฑ์เรื่องวุฒิกำรศึกษำอยู่ ทั้งที่ในควำมเป็นจริงแล้ว
ผู้เชี่ยวชำญในสำยงำนนี้มักมำจำกกำรเรียนรู้ด้วยตนเองและกำรสั่งสมประสบกำรณ์กำรท ำงำน
8.2.3 ภาครัฐควรสร้างรากฐานที่มั่นคงให้ตลาดในประเทศ และสนับสนุนการออกสู่ตลาด
ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
ในกำรที่อุตสำหกรรมจะเติบโตได้นั้น ภำครัฐจะต้องสร้ำงรำกฐำนที่มั่นคงให้อุตสำหกรรม
จำกในประเทศเสียก่อน โดยก ำหนดนโยบำยต่ำงๆ ไม่ว่ำจะเป็นระบบสิทธิประโยชน์ทำงภำษี ( Tax
Incentive ) ระบบคอนเทนต์โควต้ำ ( Content Quota System ) มำตรกำรกำรตรวจจับสินค้ำ
ละเมิดลิขสิทธิ์ มำตรกำรกำรตรวจจับผู้ใช้ซอฟท์แวร์เถื่อน มำตรกำรในกำรคุ้มครองผู้ประกอบกำร
ไทย และมำตรกำรลดภำษีส่วนที่มีควำมซ้ ำซ้อน นอกจำกนี้ ภำครัฐก็ควรสนับสนุนกำรไป
Business Matching ในต่ำงประเทศอย่ำงต่อเนื่อง หรืออำจจะจัดตั้งผู้แทนจำกภำครัฐไปออกงำน
แสดงต่ำงๆ เพื่อช่วยหำคู่ค้ำทำงธุรกิจให้ผู้ประกอบกำรไทย
8.2.4 ภาครัฐควรหาทางช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ประกอบการที่ต้องลงทุนในซอฟท์แวร์ด้วยวิธีต่างๆ
โดยภำครัฐอำจช่วยสร้ำงศูนย์กลำงที่มีคอมพิวเตอร์พร้อมโปรแกรมติดตั้งให้บริษัท SMEs
ที่มีต้นทุนน้อยได้เช่ำใช้ในรำคำถูก หรืออำจจะช่วยเจรจำต่อรองรำคำซอฟท์แวร์ที่จ ำหน่ำยใน
ประเทศไทย หรือช่วยลดภำษีให้บริษัทที่ซื้อซอฟท์แวร์อย่ำงถูกกฎหมำย เป็นต้น
82

