Page 106 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 106
98
(๖) ศำลปกครองบุรีรัมย์ ต้งอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีเขตตลอดท้องท่จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัด
ี
ั
สุรินทร์
ุ
้
�
(๗) ศำลปกครองพษณโลก ตงอยในจงหวดพษณโลก โดยมเขตตลอดทองทจงหวดกำแพงเพชร จงหวด
ั
ิ
ั
ี
ี
ั
่
ั
ั
ุ
่
ู
ั
้
ิ
ั
ตำก จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดพิจิตร จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดสุโขทัย
(๘) ศำลปกครองแพร่ ตั้งอยู่ในจังหวัดแพร่ โดยมีเขตตลอดท้องที่จังหวัดน่ำน จังหวัดพะเยำ จังหวัด
แพร่ และจังหวัดอุตรดิตถ์
(9) ศำลปกครองยะลำ ตั้งอยู่ในจังหวัดยะลำ โดยมีเขตตลอดท้องที่จังหวัดนรำธิวำส จังหวัดปัตตำนี
และจังหวัดยะลำ
ี
(๑0) ศำลปกครองระยอง ต้งอยู่ในจังหวัดระยอง โดยมีเขตตลอดท้องท่จังหวัดจันทบุรี จังหวัด
ั
ฉะเชิงเทรำ จังหวัดชลบุรี จังหวัดตรำด จังหวัดปรำจีนบุรี จังหวัดระยอง และจังหวัดสระแก้ว
ั
ี
ั
(๑๑) ศำลปกครองลพบุรี ต้งอยู่ในจังหวัดลพบุรี โดยมเขตตลอดท้องท่จังหวัดนครนำยก จงหวัด
ี
พระนครศรีอยุธยำ จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดอ่ำงทอง
(๑๒) ศำลปกครองสกลนคร ตั้งอยู่ในจังหวัดสกลนคร โดยมีเขตตลอดท้องท่จังหวัดนครพนม จังหวัด
ี
มุกดำหำร และจังหวัดสกลนคร
(๑๓) ศำลปกครองสงขลำ ตั้งอยู่ในจังหวัดสงขลำ โดยมีเขตตลอดท้องที่จังหวัดพัทลุง จังหวัดสงขลำ
และจังหวัดสตูล
(๑๔) ศำลปกครองสุพรรณบุรี ต้งอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีเขตตลอดท้องท่จังหวัดกำญจนบุร ี
ั
ี
จังหวัดชัยนำท จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดอุทัยธำนี
(๑๕) ศำลปกครองอุดรธำนี ต้งอยู่ในจังหวัดอุดรธำนี โดยมีเขตตลอดท้องท่จังหวัดเลย จังหวัด
ี
ั
หนองคำย จังหวัดหนองบัวล�ำภู จังหวัดอุดรธำนี
ี
(๑๖) ศำลปกครองอุบลรำชธำนี ต้งอยู่ในจังหวัดอุบลรำชธำนี โดยมีเขตตลอดท้องท่จังหวัดยโสธร
ั
จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดอุบลรำชธำนี และจังหวัดอ�ำนำจเจริญ
ิ
ี
มำตรำ ๙๕ ในกรณีท่มีกำรจัดต้งและเปิดท�ำกำรศำลปกครองในภูมิภำคตำมมำตรำ ๘ เพ่มเติมใน
ั
เขตศำลปกครองกลำงหรือศำลปกครองในภูมิภำคตำมมำตรำ 9๔ บรรดำคดีของเขตท้องที่ศำลปกครองใน
ภูมิภำคที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งค้ำงพิจำรณำอยู่ในศำลปกครองกลำงหรือศำลปกครองในภูมิภำคตำมมำตรำ 9๔
ให้คงพิจำรณำพิพำกษำในศำลปกครองกลำงหรือศำลปกครองในภูมิภำคนั้นต่อไป
มำตรำ ๙6 ภำยในระยะเวลำห้ำปีนับแต่วันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ มิให้มำตรำ ๒๑ วรรคหนึ่ง
(๓) มำใช้บังคับกับผู้ได้รับกำรแต่งตั้งเป็นตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุดในระหว่ำงนั้น
ในกรณีท่ผู้ได้รับแต่งต้งเป็นตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุดตำมวรรคหน่งเป็นผู้ท่ได้รับหรือมีสิทธิได้รับ
ี
ั
ึ
ี
บ�ำนำญปกติแล้วในขณะแต่งตั้ง ให้น�ำควำมในมำตรำ ๓๒ มำใช้บังคับโดยอนุโลม
มำตรำ ๙๗ กำรแต่งต้งตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุดคร้งแรกเม่อพระรำชบัญญัติน้ใช้บังคับให้ม ี
ี
ื
ั
ั
คณะกรรมกำรคัดเลือกตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุด ประกอบด้วยข้ำรำชกำรส�ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ี
ึ
ึ
สองคนซ่งได้รับเลือกโดยท่ประชุมใหญ่คณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ผู้พิพำกษำในศำลฎีกำสองคนซ่งด�ำรง