Page 108 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 108
100
ั
ี
�
ั
�
ศำลปกครองช้นต้นได้รับเงินเดือนในช้นต่ำของต�ำแหน่ง แต่ถ้ำผู้ท่โอนมำเคยได้รับเงินเดือนสูงกว่ำข้นต่ำของ
ั
ต�ำแหน่ง กำรให้ได้รับเงินเดือนอัตรำใดให้เป็นไปตำมที่ ก.ศป. ก�ำหนด
ี
มำตรำ 1๐๒ ในกรณีท่ผู้โอนมำเป็นตุลำกำรศำลปกครองหรือข้ำรำชกำรฝ่ำยศำลปกครอง เป็น
ี
ข้ำรำชกำรตำมกฎหมำยว่ำด้วยบ�ำเหน็จบ�ำนำญข้ำรำชกำรอยู่แล้วก่อนวันท่บทบัญญัติหมวด ๓ แห่ง
พระรำชบัญญัติกองทุนบ�ำเหน็จบ�ำนำญข้ำรำชกำร พ.ศ. ๒๕๓9 ใช้บังคับ แต่มิได้สมัครเป็นสมำชิกกองทุน
บ�ำเหน็จบ�ำนำญข้ำรำชกำรให้มีสิทธิได้รับบ�ำเหน็จบ�ำนำญตำมกฎหมำยว่ำด้วยบ�ำเหน็จบ�ำนำญข้ำรำชกำร
ั
ุ
้
ี
มำตรำ 1๐๓ เมอได้มกำรแต่งตงตลำกำรศำลปกครองตำมมำตรำ 9๘ และมำตรำ 99 แล้ว
ื
่
ให้ประธำนศำลปกครองสูงสุดประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำก�ำหนดวันเปิดท�ำกำรศำลปกครองสูงสุด
ศำลปกครองกลำง และศำลปกครองในภูมิภำค ส�ำหรับศำลปกครองสูงสุดและศำลปกครองในภูมิภำค
ตำมมำตรำ 9๔ ให้ด�ำเนินกำรเปิดท�ำกำรตำมควำมจ�ำเป็นโดยค�ำนึงถึงกำรคัดเลือกตุลำกำรศำลปกครอง
ที่มีควำมรู้ควำมสำมำรถเหมำะสม แต่ทั้งนี้ ต้องไม่น้อยกว่ำปีละเจ็ดศำล
ี
ในระหว่ำงท่เปิดท�ำกำรศำลปกครองในภูมิภำคตำมมำตรำ 9๔ ยังไม่ครบทุกแห่ง ให้ท่ประชุมใหญ่
ี
ตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุดมีอ�ำนำจออกประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ ก�ำหนดให้ศำลปกครองในภูมิภำค
ที่เปิดท�ำกำรแล้วมีเขตอ�ำนำจในจังหวัดใดที่อยู่ใกล้เคียงกับศำลปกครองนั้นเพิ่มเติมได้ตำมที่สมควร
ี
ั
่
ี
ุ
�
่
ื
ื
่
เมอได้มกำรประกำศวนเปิดทำกำรศำลปกครองกลำงแล้ว บรรดำเรองทร้องทกข์ต่อคณะกรรมกำร
วินิจฉัยร้องทุกข์ซ่งอยู่ในระหว่ำงกำรพิจำรณำหรือท่มีค�ำวินิจฉัยของคณะกรรมกำรวินิจฉัยร้องทุกข์แล้ว
ึ
ี
ั
แต่นำยกรัฐมนตรียังมิได้ส่งกำร ให้โอนไปเป็นคดีของศำลปกครองกลำง และถ้ำศำลปกครองกลำงเห็นว่ำ
เป็นคดีตำมมำตรำ 9 ก็ให้พิจำรณำและมีค�ำพิพำกษำต่อไป
ื
เพ่อควำมสะดวกในกำรด�ำเนินคดีปกครองของผู้ร้องทุกข์ ถ้ำได้มีกำรเปิดท�ำกำรศำลปกครองใน
ื
ภูมิภำคแล้ว เม่อเห็นสมควร ศำลปกครองกลำงจะโอนคดีน้นไปยังศำลปกครองในภูมิภำคท่มีเขตอ�ำนำจก็ได้
ี
ั
ี
กำรด�ำเนินกระบวนพิจำรณำและพิพำกษำคดีปกครองท่โอนมำตำมวรรคสำม ให้เป็นไปตำมระเบียบ
ที่ประชุมใหญ่ตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุดก�ำหนด ทั้งนี้โดยไม่ขัดหรือแย้งกับบทแห่งพระรำชบัญญัตินี้
ี
มำตรำ 1๐๔ ในระหว่ำงท่ยังไม่มีระเบียบหรือประกำศเก่ยวกับกำรบริหำรงำนบุคคลตำมมำตรำ ๘๔
ี
ให้น�ำกฎหมำยว่ำด้วยระเบียบข้ำรำชกำรพลเรือนมำใช้บังคับกับข้ำรำชกำรฝ่ำยศำลปกครองโดยอนุโลม
ี
โดยให้คณะกรรมกำรข้ำรำชกำรฝ่ำยศำลปกครองมีอ�ำนำจหน้ำท่เป็นคณะกรรมกำรข้ำรำชกำรพลเรือนตำม
กฎหมำยดังกล่ำว
ในระยะเร่มแรก ให้ข้ำรำชกำรฝ่ำยศำลปกครองท�ำกำรคัดเลือกข้ำรำชกำรฝ่ำยศำลปกครองด้วยกันเอง
ิ
ี
จ�ำนวนสำมคนเพ่อเป็นกรรมกำรข้ำรำชกำรฝ่ำยศำลปกครองโดยไม่ชักช้ำในระหว่ำงท่ยังไม่มีกำรแต่งต้ง ั
ื
ึ
ต�ำแหน่งใดซ่งเป็นกรรมกำรข้ำรำชกำรฝ่ำยศำลปกครองโดยต�ำแหน่ง ให้คณะกรรมกำรข้ำรำชกำรฝ่ำย
ศำลปกครองประกอบด้วยกรรมกำรข้ำรำชกำรฝ่ำยศำลปกครองเท่ำที่มีอยู่
ื
มำตรำ 1๐๕ บรรดำคดีท่ได้ย่นฟ้องหรืออยู่ในระหว่ำงกำรพิจำรณำคดีของศำลอ่นอยู่แล้วในวันท ี ่
ื
ี
ั
ี
พระรำชบัญญัติน้ใช้บังคับ และมีลักษณะเป็นคดีปกครองตำมพระรำชบัญญัติน้ ให้ศำลน้นด�ำเนิน
ี
กระบวนพิจำรณำและมีค�ำพิพำกษำต่อไปจนคดีนั้นถึงที่สุด