Page 23 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 23

15





                                                                                       ั
                                           ั
                                                                           ี
                  ข. ส่งส�ำเนำค�ำวินิจฉัยหรือค�ำส่งให้หน่วยงำนธุรกำรกลำงของศำลท่เก่ยวข้อง พร้อมท้งส่งส�ำเนำ
                                                                         ี
            ค�ำวินิจฉัยหรือค�ำสั่งให้ศำลที่เกี่ยวข้องทรำบโดยตรง
                                                              ั
                  9.๒ ในกรณีท่มีกำรย่นค�ำร้องกรณีค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่งถึงท่สุดระหว่ำงศำลขัดแย้งกันตำมมำตรำ
                                   ื
                                                                  ี
                             ี
            ๑๔ เม่อคณะกรรมกำรท�ำค�ำวินิจฉัยเสร็จหรือได้มีค�ำส่งอย่ำงหน่งอย่ำงใดตำมข้อ ๒๘ หรือข้อ ๒9 แล้ว
                                                        ั
                  ื
                                                                ึ
                                                   ั
                                                                  ี
                                                                    ี
            เลขำนุกำรคณะกรรมกำรจะแจ้งค�ำวินิจฉัยหรือค�ำส่งดังกล่ำวไปยังศำลท่เก่ยวข้อง ผู้ร้อง และบุคคลผู้มีส่วนได้เสีย
            ทรำบทำงไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับหรือทำงไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ๓0
            1๐. กำรด�ำเนินกำรของศำลภำยหลังคณะกรรมกำรมีค�ำวินิจฉัยชี้ขำด
                  1๐.1 กรณีโต้แย้งเรื่องเขตอ�ำนำจศำลตำมมำตรำ 1๐ หรือมำตรำ 1๒
                  เม่อคณะกรรมกำรมีค�ำวินิจฉัยช้ขำดกรณีมีกำรส่งเร่องตำมมำตรำ ๑0 และมำตรำ ๑๒ ให้ศำล
                                                            ื
                                            ี
                    ื
            ด�ำเนินกำรดังนี้ ๓๑
                  ๑0.๑.๑ กำรด�ำเนินกำรโดยทั่วไปของศำล
                                                                                              ั
                  (๑) ในกรณีที่คณะกรรมกำรได้วินิจฉัยช้ขำดว่ำ คดีอยู่ในเขตอ�ำนำจของศำลท่รับฟ้อง ให้ศำลน้น
                                                  ี
                                                                                 ี
            ด�ำเนินกระบวนพิจำรณำต่อไป
                  (๒) ในกรณีที่คณะกรรมกำรได้วินิจฉัยชี้ขำดว่ำ คดีอยู่ในเขตอ�ำนำจของอีกศำลหนึ่ง ให้ศำลที่รับฟ้อง
            ด�ำเนินกำรตำมที่เห็นสมควรโดยค�ำนึงถึงประโยชน์แห่งควำมยุติธรรม ดังนี้
                                            ี
                                                                         ี
                          ั
                  ก. มีค�ำส่งให้โอนคดีไปยังศำลท่มีเขตอ�ำนำจ โดยศำลผู้โอนมีหน้ำท่ส่งมอบส�ำนวนควำมพร้อม
                                                          ๓๒
            พยำนหลักฐำนทั้งปวงในคดีดังกล่ำวไปให้ศำลผู้รับโอนด้วย  หรือ
                  ข. มีค�ำสั่งจ�ำหน่ำยคดีเพื่อให้คู่ควำมไปฟ้องศำลที่มีเขตอ�ำนำจ
                  ๑0.๑.๒ กำรด�ำเนินกำรของศำลผู้ส่ง
                  เมื่อศำลผู้ส่งได้รับค�ำวินิจฉัยของคณะกรรมกำรแล้ว ให้ศำลดังกล่ำวด�ำเนินกำรต่อไปนี้ ๓๓
                                                  ี
                                                ี
                                                                  ั
                                                                    ี
                  ก. อ่ำนค�ำวินิจฉัยให้ผู้ร้องและบุคคลท่เก่ยวข้องฟังโดยเร็ว ท้งน้ ค�ำวินิจฉัยของคณะกรรมกำรจะม ี
                                                                            ั
                                                                ุ
                                       ุ
            ผลเม่อศำลได้อ่ำนให้ผ้ร้องและบคคลทเกยวข้องทรำบ แต่ถ้ำบคคลใดทรำบนดโดยชอบแล้วไม่มำศำล
                 ื
                               ู
                                            ่
                                            ี
                                              ่
                                              ี
                                                                   ั
            ให้ศำลบันทึกไว้และให้ถือว่ำได้อ่ำนค�ำวินิจฉัยให้บุคคลน้นฟังแล้วในวันน้น
                                                       ั
                  ข. ให้ศำลผู้ส่งแจ้งผลกำรอ่ำนให้เลขำนุกำรคณะกรรมกำรทรำบ
                  ๓0  ข้อ ๓๒ วรรคหน่ง แก้ไขเพ่มเติมโดยข้อบังคับคณะกรรมกำรวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำท่ระหว่ำงศำล ว่ำด้วย
                                                                     ี
                                        ิ
                                 ึ
                                                                                  ี
            วิธีกำรเสนอเรื่อง กำรพิจำรณำและวินิจฉัย (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๔
                  ๓๑  พระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรวินิจฉัยชี้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำล พ.ศ. ๒๕๔๒ มำตรำ ๑๑
                  ๓๒  ข้อบังคับคณะกรรมกำรวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำท่ระหว่ำงศำล ว่ำด้วยวิธีกำรเสนอเร่อง กำรพิจำรณำและ
                                            ี
                                                                                 ื
                                                         ี
            วินิจฉัย พ.ศ. ๒๕๔๔ ข้อ ๑9
                  ๓๓  ข้อบังคับคณะกรรมกำรวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำท่ระหว่ำงศำล ว่ำด้วยวิธีกำรเสนอเร่อง กำรพิจำรณำและวนจฉย
                                                                                               ั
                                                                                             ิ
                                                                                            ิ
                                           ี
                                                       ี
                                                                             ื
            พ.ศ. ๒๕๔๔ ข้อ ๓๑
   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28