Page 24 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 24

16





                1๐.๒ กรณีค�ำพิพำกษำหรือค�ำสั่งถึงที่สุดระหว่ำงศำลขัดแย้งกันตำมมำตรำ 1๔
                  ื
                เม่อคณะกรรมกำรมีค�ำวินิจฉัยก�ำหนดแนวทำงกำรปฏิบัติตำมค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่งของศำลดังกล่ำว
                                                                                ั
                                                                       ั
                                                                            ื
           และคู่ควำมหรือบุคคลซ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจำกค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่งได้ย่นส�ำเนำค�ำวินิจฉัยของ
                              ึ
           คณะกรรมกำรต่อศำลแล้ว ให้ศำลด�ำเนินกำรตำมค�ำวินิจฉัยโดยเร็ว ค�ำวินิจฉัยของคณะกรรมกำรให้เป็นท่สุด ๓๔
                                                                                          ี
                1๐.๓ กรณีอื่นตำมมำตรำ 1๕
                ให้น�ำวิธีกำรตำมข้อ ๑0.๑ และข้อ ๑0.๒ มำใช้โดยอนุโลม

           11. กำรขอคัดส�ำเนำค�ำวินิจฉัยและเอกสำรอื่น

                                                ั
                  ื
                                                                              ื
                เม่อศำลได้อ่ำนค�ำวินิจฉัยช้ขำดหรือค�ำส่งของคณะกรรมกำร (กรณีมีกำรส่งเร่องเข้ำสู่กำรพิจำรณำ
                                      ี
                                                                                       �
                                                                                         ิ
                                                     ื
                                                                             ุ
           ของคณะกรรมกำรตำมมำตรำ ๑0 มำตรำ ๑๒ หรอมำตรำ ๑๕) หรอเมอเลขำนกำรได้แจ้งคำวนจฉย
                                                                      ื
                                                                      ่
                                                                   ื
                                                                                             ั
                                                                                          ิ
                             ี
                  ั
                           ี
           หรือค�ำส่งไปยังศำลท่เก่ยวข้อง ผู้ร้อง และบุคคลผู้มีส่วนได้เสียทรำบทำงไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับหรือ
                                             ื
           ทำงไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (กรณีมีกำรส่งเร่องเข้ำสู่กำรพิจำรณำของคณะกรรมกำร ฯ ตำมมำตรำ ๑๔) แลว
                                                                                             ้
                                            ๓๕
           บุคคลทั่วไปสำมำรถขอคัดส�ำเนำดังต่อไปนี้
                (๑) ส�ำเนำค�ำวินิจฉัยหรือค�ำสั่งชี้ขำดของคณะกรรมกำรอันรับรองถูกต้อง
                (๒) ส�ำเนำเอกสำรอ่นอันรับรองถูกต้อง ท้งน้ โดยได้รับควำมเห็นชอบจำกเลขำนุกำรหรือ
                                                    ั
                                 ื
                                                       ี
           คณะกรรมกำร เช่น ส�ำนวนควำมในคดี ส�ำเนำค�ำพิพำกษำ หรือค�ำสั่งถึงที่สุดของศำล เป็นต้น
                                                                                       ๓๖
                                                                        ุ
                                           ุ
                               �
                  ้
                    ้
                ทงน ให้ผ้ร้องย่นคำขอต่อเลขำนกำรคณะกรรมกำรหรือผู้ช่วยเลขำนกำรคณะกรรมกำร  และ
                  ั
                    ี
                             ื
                        ู
           เสียค่ำใช้จ่ำยตำมระเบียบที่เลขำนุกำรคณะกรรมกำรก�ำหนด
           1๒. ส�ำนักงำนเลขำนุกำรคณะกรรมกำรวินิจฉัยชี้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำล ๓๗
                ส�ำนักงำนเลขำนุกำรคณะกรรมกำรวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำท่ระหว่ำงศำล มีผู้อ�ำนวยกำรส�ำนักงำน
                                                                 ี
                                                   ี
           เป็นผู้บังคับบัญชำและรับผิดชอบในกำรปฏิบัติรำชกำรในฐำนะหัวหน้ำส่วนรำชกำรท่เป็นกอง ภำยใต้
                                                                                 ี
                               ั
           กำรก�ำกับ ดูแล และค�ำส่งให้ปฏิบัติรำชกำรตำมกฎหมำยของเลขำนุกำรศำลฎีกำ โดยข้นตรงต่อประธำน
                                                                                ึ
                                                                       ี
                                                        ี
           ศำลฎีกำ ส�ำนักงำนเลขำนุกำรคณะกรรมกำรวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำท่ระหว่ำงศำลมีอ�ำนำจหน้ำท  ่ ี
           ดังต่อไปนี้
                                                                                 ี
                              ี
                (ก) ด�ำเนินกำรเก่ยวกับงำนเลขำนุกำรของคณะกรรมกำรวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำท่ระหว่ำงศำลและ
                                                                   ี
           คณะอนุกรรมกำรที่คณะกรรมกำรแต่งตั้ง
                ๓๔  พระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรวินิจฉัยชี้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำล พ.ศ. ๒๕๔๒ มำตรำ ๑๕
                ๓๕  ข้อบังคับคณะกรรมกำรวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำท่ระหว่ำงศำล ว่ำด้วยวิธีกำรเสนอเร่อง กำรพิจำรณำและ
                                                                               ื
                                                       ี
                                          ี
           วินิจฉัย พ.ศ. ๒๕๔๔ ข้อ ๓๓
                ๓๖  ข้อ ๓๓ แก้ไขเพ่มเติมโดยข้อบังคับคณะกรรมกำรวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำท่ระหว่ำงศำล ว่ำด้วยวิธีกำร
                                                              ี
                                                                          ี
                               ิ
           เสนอเรื่อง กำรพิจำรณำและวินิจฉัย (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๔
                ๓๗  ประกำศคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม เร่อง กำรแบ่งส่วนรำชกำรภำยในและก�ำหนดอ�ำนำจหน้ำท่ของ
                                                    ื
                                                                                           ี
           ส่วนรำชกำรในสังกัดส�ำนักงำนศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๕9
   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29