Page 36 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 36

28





                มำตรำ ๔ ให้มีคณะกรรมกำรวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำท่ระหว่ำงศำลคณะหน่ง ประกอบด้วยประธำน
                                                           ี
                                                                            ึ
                                              ี
           ศำลฎีกำเป็นประธำนกรรมกำร ประธำนศำลปกครองสูงสุด หัวหน้ำส�ำนักตุลำกำรทหำร และผู้ทรงคุณวุฒิ
           อื่นอีกสี่คนเป็นกรรมกำร
                                                                                          ึ
                                                         ั
                        ี
                                     ื
                                                       ื
                                       ึ
                                ั
                ในกรณีท่มีกำรจัดต้งศำลอ่นข้น ให้ประธำนศำลอ่นน้นเป็นกรรมกำรโดยต�ำแหน่งตำมวรรคหน่งด้วย
                คณะกรรมกำรมีอ�ำนำจหน้ำท่พิจำรณำวินิจฉัยปัญหำเก่ยวกับอ�ำนำจหน้ำท่ระหว่ำงศำลและอ�ำนำจ
                                                                           ี
                                        ี
                                                            ี
           หน้ำที่อื่นตำมพระรำชบัญญัตินี้
                มำตรำ ๕ กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิประกอบด้วยบุคคล ดังต่อไปนี้
                (๑) ผู้มีควำมรู้และมีประสบกำรณ์เก่ยวกับกำรพิจำรณำพิพำกษำคดีของศำลยุติธรรม ซ่งได้รับกำร
                                             ี
                                                                                      ึ
           คัดเลือกจำกที่ประชุมใหญ่ศำลฎีกำ จ�ำนวนหนึ่งคน
                                             ี
                                                                                      ึ
                (๒) ผู้มีควำมรู้และมีประสบกำรณ์เก่ยวกับกำรพิจำรณำพิพำกษำคดีของศำลปกครอง ซ่งได้รับกำร
           คัดเลือกจำกที่ประชุมใหญ่ตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุด จ�ำนวนหนึ่งคน
                (๓) ผู้มีควำมรู้และมีประสบกำรณ์เก่ยวกับกำรพิจำรณำพิพำกษำคดีของศำลทหำร ซ่งได้รับกำร
                                              ี
                                                                                     ึ
           คัดเลือกจำกที่ประชุมใหญ่ตุลำกำรพระธรรมนูญในศำลทหำรสูงสุด จ�ำนวนหนึ่งคน
                                                                                           ึ
                                                       ี
                (๔) ผู้มีควำมรู้และมีประสบกำรณ์ด้ำนกฎหมำยท่มิใช่เป็นผู้พิพำกษำหรือตุลำกำรประจ�ำศำล ซ่งได้
           รับกำรคัดเลือกจำกกรรมกำรโดยต�ำแหน่งและกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิตำม (๑) (๒) และ (๓) จ�ำนวนหนึ่งคน
                มำตรำ 6 กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ำมดังต่อไปนี้
                (๑) มีสัญชำติไทยโดยกำรเกิด
                (๒) มีอำยุไม่ต�่ำกว่ำสี่สิบปีบริบูรณ์
                                                                                        ิ
                (๓) ไม่เป็นพนักงำนหรือลูกจ้ำงของหน่วยงำนของรัฐ รัฐวิสำหกิจ หรือรำชกำรส่วนท้องถ่น หรือ
           ไม่เป็นกรรมกำรหรือที่ปรึกษำของหน่วยงำนของรัฐหรือรัฐวิสำหกิจ

                (๔) ไม่เป็นผู้ด�ำรงต�ำแหน่งทำงกำรเมือง สมำชิกสภำท้องถิ่น ผู้บริหำรท้องถิ่น กรรมกำรหรือผู้ด�ำรง
           ต�ำแหน่งที่รับผิดชอบในกำรบริหำรพรรคกำรเมือง สมำชิกพรรคกำรเมือง หรือเจ้ำหน้ำที่ในพรรคกำรเมือง
                                                          ื
                                           ี
                                             ึ
                                                                             ่
                                                                        ่
                (๕) ไม่เป็นกรรมกำร ผู้จดกำร ท่ปรกษำ ลูกจ้ำง หรอด�ำรงต�ำแหน่งอนใดทมีลกษณะคล้ำยกันใน
                                                                               ั
                                                                             ี
                                                                        ื
                                    ั
           บริษัท ห้ำงหุ้นส่วน หรือธุรกิจเอกชนในรูปแบบอื่น
                                    ั
                มำตรำ ๗ ในกำรแต่งต้งกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิให้ประธำนกรรมกำรแจ้งไปยังประธำนของศำล
                                                                                     ู้
                                                               �
                                                                  ิ
                                                            ่
                                                            ื
                           ้
           แต่ละศำล และหวหนำสำนกตลำกำรทหำรส�ำหรบศำลทหำร เพอดำเนนกำรคัดเลือกกรรมกำรผทรงคุณวุฒ  ิ
                        ั
                              �
                                                 ั
                                  ุ
                                ั
           ตำมมำตรำ ๕ (๑) (๒) หรือ (๓) และเสนอรำยชื่อต่อประธำนกรรมกำร
                ให้กรรมกำรโดยต�ำแหน่งและกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิตำมมำตรำ ๕ (๑) (๒) และ (๓) ประชุมร่วมกัน
           คัดเลือกกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิตำมมำตรำ ๕ (๔)
                วิธีกำรคัดเลือกกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิตำมมำตรำ ๕ (๑) (๒) และ (๓) ให้เป็นไปตำมหลักเกณฑ์ท  ี ่
            ี
           ท่ประชุมใหญ่ของศำลแต่ละศำล แล้วแต่กรณี เป็นผู้ก�ำหนด ส�ำหรับกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิตำมมำตรำ ๕ (๔)
                          ี
           ให้รับสมัครจำกผู้ท่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ำมตำมมำตรำ ๖ วิธีกำรรับสมัครและกำรคัดเลือก
           ให้เป็นไปตำมหลักเกณฑ์ท่ท่ประชุมร่วมกันตำมวรรคสองก�ำหนด
                               ี
                                ี
   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41